จากกรณีมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี กับพวกในคดีเกี่ยวกับการหลอกลวง ชักชวนให้ลงทุน มูลค่าความเสียหายเกือบ 9,000 ล้านบาท
นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี อดีตภรรยาของนพ.บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย น.ส.นลิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาในหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) บก.น.1 อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นของอดีตภรรยาและลูกสาวของ นพ.บุญ จริงหรือไม่
ขณะที่ นพ.บุญ ได้หลบหนีไปจีนแล้ว กองการต่างประเทศทำหนังสือไปยังตำรวจสากล เพื่อขอออกหมายแดง ช่วยติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทางธุรการ ตรวจสอบแล้วจีนกับไทย มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ทั้งคู่ยังคงให้การภาคเสธ ยืนยันได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี เตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ภายในวันนี้ (25 พ.ย.67) พนักงานสอบสวน จะฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก ป้องกันการเข้ามายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และมีลักษณะความผิดเข้าข่ายกระทำความผิดเป็นขบวนการ
คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก แค่เฉพาะในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีผู้เสียหายแล้วกว่า 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่นๆ และในต่างจังหวัดที่อยู่นอกพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากนี้จะต้องประชุมหารือร่วมกับผู้บังคับบัญชาว่าจะมีแนวทางในการรับแจ้งความผู้เสียหายอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นปัจจุบันก็มีผู้เสียหายจากต่างจังหวัดทยอยเข้ามาแจ้งความต่อเนื่อง ทางตำรวจนครบาลก็จะรับเรื่องไว้เบื้องต้นก่อน
คดีนี้ มีผู้ต้องหา 9 คน ควบคุมตัวได้ 8 คน เหลือ นพ.บุญ ถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาเช็คเด้ง หรือออกเช็คแล้วขึ้นกับธนาคารไม่ได้
ผู้เสียหาย ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 จํานวน 247 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,500 ล้านบาท โดยพฤติการณ์แห่งคดี ผู้เสียหายได้รับการติดต่อชักชวนจากตัวแทน บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้ นพ.บุญ และครอบครัว โดยแจ้งว่านําไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เช่น โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง,โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์,สร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว ,เข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม เป็นต้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก นพ.บุญ เป็นอดีตประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) กระทำในนามส่วนตัวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ THG จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งยังไม่เข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) หากพบการกระทำที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ก็จะเร่งดำเนินการและประสานงานกับพนักงานสอบสวนต่อไป
#หมอบุญ
แฟ้มภาพ ดาวแปดแฉก