สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลจะขอความร่วมมือจากบริษัทเอกชนให้ปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่อีกครั้งในการเจรจาปรับขึ้นอัตราค่าจ้าง ระหว่างตัวแทนนายจ้างกับลูกจ้างในปีหน้า(2568) พร้อมชูนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล พร้อมตั้งเป้าจะให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำร้อยละ 42 ภายใน 10 ปีข้างหน้า
นายอิชิบะพูดเรื่องนี้ในโอกาสปิดประชุม 3 ฝ่ายระหว่างผู้นำภาครัฐ ภาคธุรกิจและผู้นำสหภาพแรงงานในกรุงโตเกียวในวันนี้(26 พ.ย.) ขณะที่ผู้นำกลุ่มสหภาพแรงงานของญี่ปุ่นเสนอให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างร้อยละ 5 ในปีหน้า(2568) แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังรู้สึกเคลือบแคลงใจว่า ข้อเสนอการปรับขึ้นค่าจ้างร้อยละ 5 ในปีหน้า จะทำได้จริงหรือไม่ ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายกดดันให้รัฐบาลผสมของญี่ปุ่น ที่มีพรรคเสรีประชาธิปไตยของนายอิชิบะเป็นแกนนำให้จัดทำแผนเพิ่มงบประมาณเกี่ยวกับสวัสดิการสำหรับแรงงานมากขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น เช่น สินค้าต่างๆมีการปรับราคาสูงขึ้นในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน นายอิชิบะประกาศจะเสนอให้บริษัทเอกชนปรับขึ้นค่าจ้างประจำปีช่วงฤดูไบไม้ผลิปีหน้า หลังบริษัทเอกชนญี่ปุ่นปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 33 ปีในปีนี้(2567)
สำหรับการเจรจา 3 ฝ่าย ให้ผู้นำภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้นำกลุ่มสหภาพแรงงานพูดคุยเรื่องค่าจ้าง ถูกจัดตั้งขึ้นไม่นานหลังอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะเข้ามาบริหารประเทศปลายปี 2555 พร้อมให้คำมั่นจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
#ญี่ปุ่น
#นโยบายขึ้นค่าจ้าง
#เศรษฐกิจ