การนำตัวนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดา ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน คดีดิไอคอนกรุ๊ป ฝากขังศาลอาญา โดยระหว่างที่มีการควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ ขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่ นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า “ไม่ได้รับความเป็นธรรม”
ด้านนายสามารถ เปิดเผยระหว่างที่ควบคุมตัวขึ้นรถยนต์ว่า “อยากพูดแต่พูดไม่ได้” ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกควบคุมตัวและขึ้นรถยนต์เพื่อไปยังศาลอาญารัชดา นอกจากนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนางวิลาวัลย์ ขึ้นรถ และผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามจนเกิดการชุลมุน นางวิลาวัลย์ ได้กระดาษขนาด A4 ที่มีข้อความบางอย่างยัดใส่มือนักข่าว ซึ่งเอกสารดังกล่าวด้านหน้าคือ เอกสาร บันทึกแจ้งคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว
โดยมีข้อความว่า ตามที่นางสาววิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาในคดีพิเศษ 115/2567 กรณีกลุ่มผู้บริหารและ เครือข่ายของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีพฤติการณ์กระทำความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ยื่นคำร้องให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนเสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษตามหนังสือ ฉบับลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 นั้น
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 ได้ร่วมประชุมพิจารณาและมีมติไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหารายนางสาววิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ เนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(2) จึงขอแจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวให้นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ ผู้ต้องหาทราบ ลงชื่อโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมคดีพิเศษหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 115/2567
โดยด้านหลังกระดาษแผ่นดังกล่าว มีข้อความที่เขียนด้วยลายมือ ระบุว่า
1.เรื่องเกิดปี 64 ตอนนั้นดิไอคอนกรุ๊ปยังไม่มีปัญหาธุรกิจ เงินที่ให้มาทำบุญกับกู้ยืม พอลก็ได้เซ็นชื่อ ไว้เป็นหลักฐานว่าได้คืนหมดแล้ว ได้ทำหนังสือออกมาให้แล้ว
2. ใครคือผู้เสียหาย
3. จะฟอกเงินได้อย่างไร
4. ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดนกลั่นแกล้ง
5. ไม่มีส่วนรู้เห็นในธุรกิจดิไอคอน เพราะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว
6. จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้อย่างไร
7. จะขอต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจนกว่าชีวิตจะหาไม่
8. ถ้าต้องโทษจนถึงตายจนถึงตายก็ถือว่าประเทศไทยไม่มีความยุติธรรม
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและโฆษกดีเอสไอ แถลงผลการจับกุมโดยระบุว่า เบื้องต้นนายสามารถให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอยื่นคำให้การแก้ข้อหาภายใน 15 วัน ซึ่งปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานฟอกเงิน แต่เป็นลักษณะการเงินยืมและเงินทำบุญตามที่มารดาได้ให้ข้อมูลในทำนองเดียวกัน
ส่วนเส้นทางการเงินจะไปเชื่อมโยงบุคคลใดนั้น ในชั้นสอบสวนพบคนที่เกี่ยวข้องเป็นบุคคลที่ออกหมายจับ สำหรับความเชื่อมโยงทางการเงินกับบุคคลอื่นๆ เป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับและบุคคลที่ต้องสอบสวนดำเนินการเพิ่มเติม คือ นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ที่มีเงินโอนมาประมาณ 500,000 บาท
ส่วนระหว่างที่สอบปากคำนายสามารถ แล้วมีนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล เข้ามารับฟังด้วยนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า นอกจากทนายความที่เข้ารับฟังได้ด้วยแล้ว ผู้ต้องหายังมีสิทธิให้ผู้ที่ไว้วางใจเข้าร่วมฟังการสอบสวนได้ ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมาย โดยเปิดโอกาสให้ได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และเป็นหน้าที่ของเราที่จะพิสูจน์ความผิดของเขา ซึ่งการตอบคำถามต้องเป็นตัวผู้ต้องหาเอง
สำหรับ มารดาของนายสามารถมีความเครียดเนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ส่วนตัวของนายสามารถก็มีความเครียดเช่นกัน ส่วนคำให้การยังไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐาน อีกทั้งบัญชีของแม่นายสามารถเป็นหนึ่งในอีกหลายๆ บัญชีม้าหรือไม่นั้น ก็อาจเป็นไปได้ ส่วน นายสามารถ จะโอนถึงใครบ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบ พนักงานสอบสวนมีมติร่วมกันแล้วว่าจะคัดค้านการประกันตัวนายสามารถและมารดา เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีพฤติการณ์ต่างๆ ที่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้
#ส่งฟ้องสามารถกับแม่
#ฟอกเงินบอสพอล