กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยอมรับว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศที่สำคัญและฐานทัพอากาศในภูมิภาคเคิร์สก์ ถูกโจมตีด้วยระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (Atacms) ที่สหรัฐฯ จัดหาให้แก่ยูเครน เมื่อวันอังคาร (26 พ.ย.67) ชิ้นส่วนความเสียหายทำให้เกิดไฟไหม้ที่ฐานทัพ แม้ว่าจะสามารถสกัดขีปนาวุธได้ 3 ลูกจากทั้งหมด 5 ลูก แต่ 2 ลูกเข้าถึงเป้าหมาย ส่งผลให้ระบบเรดาร์ได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต
การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนยกระดับความรุนแรงมากขึ้น เมื่อสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธทางยุทธวิธี โจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียส่งทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมในการสู้รบในดินแดนยูเครน และรัสเซียใช้ ขีปนาวุธโอเรชนิค (Oreshnik) ที่เป็นขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่โจมตีเมืองดนิโปรของยูเครน
เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.67) กองทัพยูเครน ยังโจมตีฐานทัพอากาศคาลิโน ทางฝั่งตะวันออกของภูมิภาคเคิร์สก์ แต่มีความเสียหายเพียงเล็กน้อย เนื่องจาก ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดไว้ได้ 7 ลูกจากทั้งหมด 8 ลูก
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวของสื่ออิสระในรัสเซีย (Agentstvo) อ้างว่า กองทัพรัสเซียกำลังยึดครองดินแดนในยูเครนได้อย่างรวดเร็ว โดยในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ยึดดินแดนได้เพิ่มเกือบ 235 ตารางกิโลเมตร และทำให้ในเดือนพฤศจิกายน สามารถยึดดินแดนได้ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร
นักวิเคราะห์จากสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชี้ว่า กองทัพรัสเซียกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองคูราคอฟ และต่อไปที่โปครอฟสก์ศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคโดเนตสก์ เป็นการรุกคืบเร็วที่สุดและมากกว่าที่เคยทำได้ตลอดช่วงปี 2566
#สงครามรัสเซียยูเครน