ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ประกาศตั้งนายเจมีสัน กรีเออร์ (Jamieson Greer) นักกฏหมายด้านการค้าวัย 44 ปี เป็นผู้แทนการค้าคนใหม่ของสหรัฐฯ สำหรับนายกรีเออร์ ไม่ใช่คนหน้าใหม่ในแวดวงการค้าของสหรัฐฯ เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานประจำสำนักงานของนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ อดีตผู้แทนการค้าสหรัฐฯในยุคที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรก ช่วงนั้น รัฐบาลทรัมป์ ชูนโยบายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและประเทศอื่นๆ และการลงนามในข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ซึ่งใช้แทนข้อตกลงเดิม คือ ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(NAFTA) เป็นหนึ่งในผลงานสำคัญๆในการบริหารประเทศสมัยแรก นักวิเคราะห์ ระบุว่า ถ้าวุฒิสภาสหรัฐฯให้ความเห็นชอบกับเรื่องนี้ นายกรีเออร์ จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการค้าของสหรัฐฯในรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งจะเข้ามาบริหารประเทศหลังนายทรัมป์ เข้าสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.2568
นับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 นายทรัมป์ ให้คำมั่นจะประกาศใช้มาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก แคนาดาในอัตราร้อยละ 25 และจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 10 ในวันแรกที่เข้ามาบริหารประเทศ จนกว่าประเทศเหล่านี้จะแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองและระงับการลักลอบขนยาโอปิออยด์สังเคราะห์เข้ามาที่สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขอให้ทางการจีน หยุดผลิตส่วนผสมที่ใช้ในสารเฟนทานิล ทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตกว่า 75,000 ราย เมื่อปีที่แล้ว
นายทรัมป์ มองเรื่องมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าว่า เป็นเครื่องมือในการตอบโต้ทางการค้ากับกลุ่มประเทศที่มีข้อปฏิบัติทางการค้าไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ ทั้งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจสำหรับบริษัทอเมริกันและช่วยสร้างรายได้มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เข้าประเทศ อีกทั้งจะช่วยให้สหรัฐฯนำรายได้ส่วนนี้มารองรับแผนขยายมาตรการปรับลดภาษีสำหรับชาวอเมริกัน นายทรัมป์ ลงนามไว้ตั้งแต่เข้ามาบริหารสมัยแรกให้เดินหน้าต่อไปด้วย
#รัฐบาลทรัมป์
#ตั้งผู้แทนการค้าสหรัฐ