สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(กลุ่ม G7) ระบุในแถลงการณ์หลังประชุมที่เทศบาลเมืองฟีอุจจี จังหวัดโฟรซีโนเน ทางภาคกลางของอิตาลี ระหว่างวันที่ 25-26 พ.ย.67 วิจารณ์การที่เกาหลีเหนือกระชับความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย โดยเฉพาะการส่งกำลังทหารไปรัสเซีย เพื่อสู้รบกับยูเครนว่าเป็นการขยายพื้นที่สู้รบให้กว้างและอันตรายมากยิ่งขึ้น กระทบความมั่นคงของยุโรป และภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
กลุ่ม G7 ย้ำจุดยืนการสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดน อธิปไตย อิสรภาพของยูเครน แม้ว่า หลายฝ่าย รู้สึกหวั่นเกรงว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯแสดงท่าทีไม่อยากสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครนในช่วงที่เขาเข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า อาจจะกระทบความเป็นเอกภาพของกลุ่ม G7 ในเรื่องการสนับสนุนยูเครน
กรณีของประเทศจีน กลุ่ม G7 ย้ำจุดยืนเดิม คือ คัดค้านการที่ประเทศจีนแผ่อิทธิพลทางทหารและใช้วิธีข่มขู่คุกคามประเทศเพื่อนบ้านในทะเลจีนใต้ ทั้งย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและความมั่นคงบริเวณช่องแคบไต้หวัน แสดงความกังวลเรื่องการที่ประเทศจีนมีส่วนส่งเสริมการผลิตอุตสาหกรรมด้านกลาโหมของรัสเซีย เช่น การส่งออกสินค้าที่ใช้ 2 ทางคือ สินค้าที่ใช้ได้ในทางพาณิชย์และการทหารไปที่รัสเซีย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศจีนช่วยโน้มน้าวรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครนโดยเร็ว
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงที่สงครามในยูเครนเข้าสู่ระยะมิติใหม่คือ การที่เกาหลีเหนือส่งกำลังทหารไปประจำภูมิภาคเคิร์สก์ ชายแดนทางตะวันตกของรัสเซีย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจจะได้รับเทคโนโลยีด้านการทหารและนิวเคลียร์จากรัสเซียเป็นข้อแลกเปลี่ยนหรือไม่
กลุ่ม G7 ประกอบด้วย อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ บวกกับกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ขณะเดียวกัน ตัวแทนจากอียิปต์ ยูเครน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์
#กลุ่มG7
#วิจารณ์เกาหลีเหนือ
#ช่วยรัสเซียรบยูเครน