เม็กซิโกปฏิเสธไม่ปิดด่านชายแดน สวนนโยบายสกัดคนเข้าเมืองของทรัมป์

          หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯได้โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ ทรูธโซเชียล หลังต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ปาร์โด ของเม็กซิโกเมื่อวานนี้(27 พ.ย.)ว่า นางเชนบาม ตกลงที่จะร่วมสกัดคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผ่านเม็กซิโก ก่อนทะลักเข้าสู่สหรัฐฯ โดยสั่งปิดชายแดนฝั่งภาคใต้(ของสหรัฐฯ) บีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีเชนบาม ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากคำอ้างของนายทรัมป์ในเรื่องการควบคุมด่านชายแดน โดยนางเชนบาม ย้ำจุดยืนของเม็กซิโกว่าไม่มีนโยบายปิดชายแดน แต่จะแก้ไขปัญหาเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานโดยให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย

          นางเชนบาม ได้แถลงข่าว พร้อมนายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีเศรษฐกิจเม็กซิโก ขู่จะใช้มาตรการตอบโต้ ถ้าหากสหรัฐฯประกาศทำสงครามการค้ากับเม็กซิโก ระบุว่า ถ้ารัฐบาลทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า เม็กซิโกจะตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน พร้อมขอให้รัฐบาลสหรัฐฯหาทางร่วมมือกับเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

          ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์โพสต์ข้อความทรูธโซเชียลเมื่อวันจันทร์(25 พ.ย.)ประกาศจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตราร้อยละ 25 และปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมอีกร้อยละ 10 ในวันแรกที่เข้ามาบริหารประเทศหลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในวันที่ 20 ม.ค.2568 พร้อมกล่าวถึงเงื่อนไขการยกเลิกมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดาและจีนก็ต่อเมื่อประเทศทั้งสาม ร่วมแก้ปัญหาคนต่างด้าวและการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ

          ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา ได้จัดประชุมฉุกเฉินกับ 10 มุขมนตรีของแคนาดาเมื่อวานนี้(27 พ.ย.)เพื่อหารือเรื่องมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ หลังนายทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาร้อยละ 25

          ส่วนทางการจีนยังไม่แสดงความเห็น กรณีนายทรัมป์ขู่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมร้อยละ 10 แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันดี.ซี.กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีใครมีชัยชนะจากสงครามการค้า

#เม็กซิโก

#ปัญหาคนเข้าเมืองสหรัฐ

#ท่าทีแคนาดา

#ท่าทีจีน