กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) ซึ่งมีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร รายงานว่ากลุ่มกบฏในซีเรีย ที่นำโดยกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) สามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองอะเลปโป ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศได้แล้ว หลังจากที่เริ่มปฏิบัติการณ์ครั้งใหญ่ในวันพุธ (27 พ.ย.67) เพื่อต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด
มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านคนในสงครามกลางเมืองซีเรียที่เริ่มขึ้นในปี 2554 เมื่อรัฐบาลปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย แล้วกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาด โจมตีฝ่ายรัฐบาล ยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศ ต่อมารัฐบาลซีเรียขอความช่วยเหลือจากรัสเซียและพันธมิตรอื่นๆ สามารถยึดคืนพื้นที่กลับมาได้เกือบทั้งหมด รวมถึงการผลักดันกลุ่มกบฏออกจากเมืองอะเลปโป ในปี 2559
อย่างไรก็ตาม กองทัพของรัฐบาลซีเรียประกาศปิดสนามบินในเมืองอะเลปโป และถนนทุกสายที่มุ่งสู่เมืองนี้ ส่วนรัสเซียที่เป็นพันธมิตรสำคัญของประธานาธิบดีอัสซาด ให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือซีเรีย โดยการจัดส่งอาวุธจะมาถึงซีเรียภายใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ย.) เครื่องบินรบของซีเรียและรัสเซียโจมตีเป้าหมายซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธในเมืองอิดลิบ ทำให้สหประชาชาติมีความกังวล นายเดวิด คาร์เดน รองผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมประจำภูมิภาคของสหประชาชาติในซีเรีย กล่าวว่าการโจมตีอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 วัน ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 27 ราย รวมถึงเด็กอายุเพียง 8 ขวบ
...
#สงครามซีเรีย