กลุ่มอาสากู้ภัยหมวกกันน็อกขาวหรือไวท์เฮลเมตส์เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ซึ่งเป็นเด็ก 10 ราย ในทางตอนตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียจากเหตุการณ์โจมตีทางอากาศโดยรัฐบาลรัสเซียและซีเรียที่อิดลิบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฎในทางตอนเหนือของประเทศเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุบนแพลต์ฟอร์มเอ็กซ์ว่า ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศรัสเซียและซีเรียตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเป็น 56 ราย และเป็นเด็ก 20 ราย
ประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า การโจมตีเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นในใจกลางอิดลิบ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่สุดที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล อีกทั้ง เมืองนี้ยังติดกับชายแดนตุรกีที่มีประชาชนราว 4 ล้านคนอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย ระบุว่า มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายและบาดเจ็บจำนวนมาก
ด้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียให้คำมั่นว่า จะปราบปรามกลุ่มก่อกบฎที่พยายามบุกยึดเมืองอะเลปโป กองทัพทหารซีเรีย ระบุว่า สามารถยึดคืนเมืองที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มก่อกบฎได้แล้วหลายเมือง และมีเป้าหมายที่จะโจมตีพื้นที่หลบภัยของกลุ่มกบฎเท่านั้น ประกอบกับเน้นย้ำว่า การโจมตีในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการโจมตีพลเมือง
ช่วงหลายวันที่ผ่านมา กลุ่มกบฎเข้ายึดครองพื้นที่อิดลิบ นับเป็นการเคลื่อนไหวที่รุนแรงที่สุดหลังจากสงครามกลางเมืองเริ่มต้นขึ้น โดยกองทัพแนวหน้าไม่ได้ปฏิบัติการครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน กลุ่มกบฏบุกครองเมืองอะเลปโป ในทางตะวันออกของอิดลิบ ส่งผลให้กองทัพต้องถอยตัวออกไป
เหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้สหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมนีและสหราชอาณาจักรออกแถลงร่วม เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการยกระดับความรุนแรง ตลอดจนปกป้องพลเมืองและคุ้มกันโครงสร้างพื้นฐานเพื่อไม่ให้เกิดภาวะผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้น รวมถึงสร้างความลำบากในการให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยธรรมด้วย
#ซีเรีย
#รัสเซีย
แฟ้มภาพ