พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว ได้รับการพักโทษและปล่อยตัวชั่วคราวจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์วันนี้ ว่า เป็นการบริหารของกรมราชทัณฑ์ ไม่ได้รายงานมาที่รัฐมนตรีฯ แต่ได้ข้อมูลจากการสอบถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่า นายบุญทรง ถูกศาลพิพากษาลงโทษ 40 กว่าปี จากการได้รับพระราชทานอภัยโทษ มา 4 ครั้ง ทำให้เหลือโทษจำคุก 10 ปี ติดมาแล้ว 7 ปีกว่า จึงเข้าเกณฑ์พักโทษทั่วไป ซึ่งการพักโทษเป็นอำนาจคณะอนุกรรมการพิจารณา ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้มีทั้งแพทย์ ผู้พิพากษา ตำรวจ ปลัดและรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นกรรมการด้วย กรณีนายบุญทรง เหมือนนักโทษทั่วไป เป็นผู้สูงอายุ และแม้พักโทษก็ยังมีโทษอยู่ตามกฎหมาย
ส่วนการใส่กำไลอีเอ็มหรือไม่ พ.ต.ท.ทวี กล่าวว่า เมื่ออายุไม่ถึง 70 ปี จะต้องติดกำไลอีเอ็ม เป็นการบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ ไม่ต้องรายงานตน การพักโทษแต่ละครั้ง มีผู้ต้องขังได้พักการลงโทษกว่า 1,000 คน ส่วนเงื่อนไขก็ต้องมีผู้ปกครอง เป็นผู้ดูแล และอยู่ในการดูแลของกรมคุมประพฤติ ซึ่งเป็นระบบสากล และการพักการลงโทษต้องพักอยู่ที่ไหน จะขึ้นกับคดีที่ต้องโทษอยู่ในพื้นที่ไหน ส่วนการจะขอพระราชทานอภัยโทษอีกระหว่างพักการลงโทษ เป็นเรื่องส่วนตัวที่จะขออภัยฯ ได้ แต่การพระราชทานอภัยโทษ ไม่ใช่กฎหมายราชทัณฑ์
นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชายของ นายบุญทรง ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า นายบุญทรงได้รับการพักโทษแล้ว ได้ไปรับกลับบ้านมาในช่วงเช้า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายบุญทรงมาก ส่วนเรื่องของสุขภาพ นายเดชนัฐวิทย์ ตอบว่า "นอกจากเรื่องหมอนรองกระดูกและโรคประจำตัว ก็ถือว่าโอเค หน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ก็ถึงวันที่เฝ้ารอมานาน"
สำหรับคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี นั้น นอกจากคดีอาญาแล้ว ศาลปกครองกลาง ยังมีคำพิพากษาให้นายบุญทรง กับพวก ชดใช้ค่าเสียหายคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ รวมเกือบ 15,000 ล้านบาท เฉพาะค่าเสียหายที่นายบุญทรง ต้องชดใช้อยู่ที่ตัวเลข 1,768 ล้านบาท
#พักโทษบุญทรง