ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันในตลาดโลก ทรงตัว ปิดตลาดวันจันทร์(2ธ.ค.67) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนนี้
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนม.ค.68 เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 68.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.พ.68 ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.67ของจีนขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดของโลก แม้อีกด้านหนึ่งต้องเผชิญกับคำขู่รีดภาษีจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงขีปนาวุธ 2 ลูกซึ่งมีเป้าหมายโจมตีฐานทัพอิสราเอลซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนเลบานอน ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเตือนว่าอิสราเอลจะตอบโต้การกระทำดังกล่าว และประณามว่าการที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอิสราเอลนั้น เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้ราคาน้ำมันลดช่วงบวก โดยราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.67ยังคงไม่แน่นอน โดยจะขึ้นอยู่กับตัวเลขจ้างงานซึ่งจะมีการเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเช่นกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน พ.ย.67ในวันศุกร์นี้ (6 ธ.ค.67) ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้น 183,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ย.67จะทรงตัวที่ระดับ 4.1%
ด้านราคาทองคำ ขยับลงในวันจันทร์(2ธ.ค.67) จากการแข็งค่าของดอลลาร์ และนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆ รวมถึงแนวโน้มของเฟดเกี่ยวกับเส้นทางอัตราดอกเบี้ย
-ราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนก.พ.68 ลดลง 20.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 2661.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#น้ำมันโลก
#ทองคำ
#ภาคการผลิตจีนเเข็งแกร่ง
แฟ้มภาพ