ตร.ซ้อนแผน รวบหนุ่มซาดิสม์ ข่มขืนนิสิตปี 1 ถ่ายคลิปแบล็คเมล์

          การสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัวนายซู ซิงเลย อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5716/2567 ลงวันที่ 26 พ.ย.67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย” ตรวจยึดของกลาง

1.โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง (พบคลิปการข่มขืนเหยื่อ, คลิปการมีเพศสัมพันธ์แนวซาดิสม์และคลิปการแอบถ่ายใต้กระโปรงจำนวนมาก) 2.เชือกคล้องคอ 1 เส้น (ใช้เพื่อการมีเพศสัมพันธ์) จับกุมตัวได้ที่ โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี 

          พฤติการณ์กล่าว คือ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายซึ่งเป็นนิสิตปี 1 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน วัย 18 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ว่าถูกชายหนุ่มชาวจีนข่มขืน โดยเหตุเกิดในช่วงเย็นของวันที่ 19 พ.ย.67 เธอพบกับคนร้ายที่บริเวณชั้น 6 ห้างมาบุญครอง คนร้ายเข้ามาทักทาย ทำทีเป็นนักท่องเที่ยว ด้วยเหยื่อที่เป็นนักศึกษาและกำลังฝึกพูดภาษาจีน เธอจึงถูกคนร้ายลวงไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี ก่อนจะลงมือข่มขืนอย่างซาดิสม์ ซ้ำยังถ่ายคลิปวีดิโอเหยื่อไว้ตลอดการลงมือ

       หลังเกิดเหตุเหยื่อกลับไปที่บ้านในสภาพที่ย่ำแย่ แต่เรื่องคงยังไม่จบ เพราะคนร้ายมีคลิปเปลือยของเหยื่อสาว คนร้ายยังพยายามส่งข้อความมาเชิงให้กลับไปให้คนร้ายกระทำชำเราอีก และจะพาชายอื่นมาร่วมกระทำกับเธออีก เธอไร้ทางออก จึงตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้กับครอบครัวฟัง ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดี

       ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับคนร้ายชาวจีนรายนี้ แต่การสืบสวนติดตามนั้นไม่ง่าย เพราะคนร้ายร่อนเร่พเนจรไปทั่ว หาตัวจับได้ยาก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. วิเคราะห์แผนประทุษกรรมและอุปนิสัยของคนร้าย ก่อนตัดสินใจใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ โดยใช้นกต่อสาวสวย ล่อให้คนร้ายมาติดกับดัก แต่ความวิปริตก็เกิดขึ้นเมื่อคนร้ายดันร้องขอกับนางนกต่อให้หาผู้ชายอีก 1 คน สวมชุดแฟนตาซี มาร่วมหลับนอนด้วยแบบ “สวิงกิ้ง” และคนร้ายจึงจะยอมมาพบกับนางนกต่อ โจทย์ที่ยากเกิดขึ้นกับทีมสืบสวน แต่ก็เป็นเพียงหนทางเดียวที่คนร้ายจะปรากฏตัว จึงตัดสินใจส่ง ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ปลอมตัวเป็นชายหื่นสายซาดิสม์ “สวมแฟนตาซี” แทททูลายสัก ให้เหมือนชาวต่างชาติ เข้าไปร่วมกับคนร้าย

        กระทั่งคนร้ายนัดหมายกับนางนกต่อและร.ต.อ.ปลอมตัว โดยสั่งให้ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรี พล.ต.ต.ธีรเดช ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ ซ้อนแผนสวิงกิ้ง ส่งชุดสืบนครบาลเข้าไปแอบในห้องพักเพื่อดักรอให้คนร้ายปรากฏตัว สายสืบ 6 ชีวิต แอบในตู้เสื้อผ้า ซอกเตียง ระเบียงห้อง รอคอยการปรากฏตัวของคนร้าย

        กระทั่งเวลา 19.30 น. ร.ต.อ.ปลอมตัวในชุดนักมวยปล้ำ เดินไปเปิดประตู คนร้ายท่าทีระแวดระวังตัว สวมสิ่งปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด เดินเข้ามาเมื่อร.ต.อ.ปลอมตัว ถามชื่อจนมั่นใจว่าเป็นคนร้าย ก็ส่งสัญญาณ “ฮี่ๆๆๆๆ” ก่อนที่ชุดสืบสวนที่แอบอยู่ทั้งหมด จะออกมาจับตัวไว้ทันที

        ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “รู้สึกตกใจมาก โดยก่อนถูกจับ ตนกินยาชูกำลังมาเต็มที่ โดยที่สวมไว้ที่คอคืออุปกรณ์ที่ไว้ใช้ในตอนมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องทางคดีตนไม่ยอมรับ ขอปฏิเสธและไม่ขอให้การใดๆ ตนท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ได้มาประกอบธุรกิจสแกมเมอร์ใดๆ”

      หลังการจับกุมชุดสืบสวนขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์คนร้ายเป็นจำนวนมาก โดยมีคลิปของเหยื่อผู้เสียหายถูกกระทำชำเราอย่างซาดิสม์ แล้วยังพบคลิปที่คนร้ายมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายอื่นๆ อีกหลายราย และที่น่าตกใจคือพบคลิปการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาว ตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และยังพบหลักฐานอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งวิเคราะห์ว่าคนร้ายมีรสนิยมทางเพศในลักษณะ NTR หรือ Netorare

          พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าคนร้ายรายนี้เป็นชาวต่างชาติ มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เรียกว่าเป็นคนที่หาตัวจับยาก เราจึงต้องใช้หลักการและทฤษฎีเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนร้ายมาช่วยในการสืบสวนติดตามตัว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราสามารถล่อคนร้ายมาติดกับดักเราได้ เพราะไม่หากใช้เวลานาน อาจจะมีสุภาพสตรีตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

          ส่วนในทางคดีเราขยายผลพบพยานหลักฐานสำคัญทางคดี ซึ่งเราจะนำส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีกับคนร้าย แต่ที่น่าตกใจคือคนร้ายรายนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในประเทศไทยได้เพียงไม่นาน แต่ปรากฏว่าไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวในที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และมีพฤติกรรมที่หมกมุ่นทางเพศเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง

          หลังจับกุมตัวนายซู ซิงเลย แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะขยายผลนำตัว พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#ข่มขืนนิสิต

#ซาดิสม์