สถานการณ์ในซีเรีย หลังจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย นำโดยกลุ่มอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชามของนายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล โกลานี ยึดกรุงดามัสกัสเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.67) ขณะที่ประธานาธิบดีบาชาร์อัล-อัสซาด พร้อมครอบครัว ยอมเดินทางออกนอกประเทศเพื่อลี้ภัยการเมืองอยู่ในรัสเซีย
บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ แถลงจากทำเนียบขาว เมื่อวานนี้ เตือนกลุ่มรัฐอิสลาม(IS)ไม่ให้ฉวยโอกาสเคลื่อนพลเข้ามาที่กรุงดามัสกัส เนื่องจาก สหรัฐฯไม่ต้องการให้กลุ่มไอเอสเข้ามามีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของซีเรียในระยะเปลี่ยนผ่านรัฐบาลในขณะนี้ พร้อมมีคำสั่งให้กองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ(CENTCOM)โจมตีทางอากาศไปยังฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส หวังสกัดฉวยโอกาสจับมือกับฝ่ายต่อต้าน ตั้งรัฐบาลใหม่มาปกครองซีเรีย
สอดคล้องกับ พลเอกไมเคิล เอริก คูริลลา ผู้บัญชาการ CENTCOM ซึ่งรับผิดชอบดูแลผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯในตะวันออก,เอเชียกลางและเอเชียใต้ ระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อวานนี้ CENTCOM ได้โจมตีทางอากาศกว่า 75 ครั้งไปยังที่มั่นกลุ่มไอเอสในพื้นที่ภาคกลางของซีเรีย ไม่มีพลเรือนได้รับอันตราย พร้อมย้ำจุดยืนของนายไบเดนว่าสหรัฐฯจะไม่ยอมให้กลุ่มไอเอสเข้ามามีบทบาทในการมืองซีเรียในช่วงในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ พร้อมเตือนทุกองค์กรทุกภาคส่วนของซีเรียไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับกลุ่มไอเอส
ขณะเดียวกัน ภาพข่าวจากสื่อท้องถิ่นในซีเรีย แสดงให้เห็นว่า ชาวซีเรียที่ไปลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เลบานอนและจอร์แดน ทยอยกลับบ้านในซีเรีย ไม่กี่ชั่วโมงหลังการรัฐบาลของนายอัสซาดถูกโค่นล้ม โดยเฉพาะที่ด่านมาสนาอา (Masnaa) ด่านหลักในพื้นที่ชายแดนเลบานอน-ซีเรีย มีรถยนต์หลายคันจอดเรียงกันเป็นแถวยาว รอข้ามแดนจากเลบานอนเข้าไปยังซีเรีย หลายคนโห่ร้องด้วยความยินดีที่ได้กลับบ้าน พร้อมตะโกนคำขวัญต่อต้านรัฐบาลของนายอัสซาด
ส่วนที่ด่านจาเบอร์(Jaber)ของซีเรีย ซึ่งติดต่อกับจอร์แดน ชายคนหนึ่งเปิดเผยว่า เขาไปลี้ภัยอยู่ในจอร์แดนมา 12 ปีแล้ว ซึ่งหลังทราบข่าวเรื่องการล่มสลายของรัฐบาลของนายอัสซาด เขารู้สึกดีใจมากเนื่องจากพวกเขาจะมีโอกาสกลับบ้านด้วยความปลอดภัยและสลายใจ หลังรอคอยโอกาสนี้มาหลายปี
#สหรัฐ
#โจมตีกลุ่มไอเอส
#สงครามซีเรีย
#ผู้อพยพกลับบ้าน