ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือโปลิตบูโร ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง 24 คน นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินจาก “การยึดมั่นในนโยบายและใช้ความระมัดระวัง” ที่ดำเนินมานานหลายปีเป็นการ “ผ่อนคลายปานกลาง” ในปีหน้า (2568) พร้อมดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกมากขึ้น ในห้วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ได้อยู่ภาวะปกติ และเพิ่มการกระตุ้นการบริโภคและขยายอุปสงค์ภายในประเทศในทุกทิศทาง
จีนเคยใช้นโยบายการเงินแบบ “ผ่อนคลายอย่างเหมาะสม” หลังจากวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 จากนั้นเปลี่ยนมาใช้นโยบาย “รอบคอบ” ในช่วงปลายปี 2553 นักวิเคราะห์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินครั้งนี้ พร้อมไปกับการส่งสัญญาณการผ่อนคลายและการต้อนรับนักลงทุน ส่วนหนึ่งอาจเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่สงครามการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 ในเดือนหน้า (20 ม.ค.68) โดยในสัปดาห์นี้ จีนจะมีการประชุมเศรษฐกิจกลางประจำปีเพื่อกำหนดลำดับความสำคัญของเป้าหมายทางเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไว้ที่ประมาณร้อยละ 5
...
#เศรษฐกิจจีน
#นโยบายการเงิน