สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวซีเรียส่วนใหญ่ต่างแสดงความดีใจเมื่อทราบว่า อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด หนีไปลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย หลังถูกฝ่ายต่อต้าน นำโดยนายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-จาวลานี หรือชื่อจริงคือ นายอาหมัด อัลชาราผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.แต่หลายคนรู้สึกไม่สบายใจโดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบจากการปกครองของรัฐบาลของนายอัสซาด เช่น ญาติของนักโทษที่ถูกขังในเรือนจำทหาร เซดนายา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางทิศเหนือราว 30 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเรือนจำทั่วประเทศซีเรียซึ่งฝ่ายต่อต้านบุกยึด พร้อมทั้งปล่อยตัวนักโทษทั้งหมดเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ชาวบ้านหลายคนได้ไปตามหาญาติซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำเซดนายา เนื่องจากยังไม่เจอตัว แม้ว่าฝ่ายต่อต้านปล่อยนักโทษทั้งหมดจากเรือนจำทั่วซีเรียเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้ว หวั่นเกรงถูกทารุณ เช่น กักขังในห้องใต้ดินของเรือนจำ หรือไม่ แต่ล่าสุด เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของซีเรียที่เรียกว่า กลุ่มหมวกกันน็อคสีขาว แถลงสิ้นสุดการค้นหาในเรือนจำ เซดนายา ในวันนี้ ระบุว่า ไม่พบนักโทษถูกขังในห้องใต้ดินของเรือนจำ
หลายฝ่ายอยู่ระหว่างประเมินว่า รัฐบาลชุดใหม่ของซีเรียจะมีรูปร่าง หน้าตาอย่างไร เช่น มีกลุ่มต่อต้านกลุ่มใดบ้างร่วมจัดตั้งรัฐบาล หรือจะดำเนินการอย่างไรสำหรับอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-จาวลานี เปิดเผยเมื่อเช้าวันนี้ว่า รัฐบาลใหม่ของซีเรียจะรวบรวมชื่อของอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลชุดก่อน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายในกรณีมีการทารุณนักโทษ ทั้งเสนอเงินรางวัลสำหรับคนที่แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลชุดก่อนที่ทำผิดฐานก่ออาชญากรรมสงครามในยุคสงครามกลางเมืองในซีเรีย นอกจากนี้ มีรายงานจากนักรบฝ่ายต่อต้านในวันนี้(10 ธ.ค.)ว่า พวกเขาพบศพหมู่กว่า 40 รายในห้องเก็บศพของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งดูจากสภาพศพ เสียชีวิตจากการถูกทรมาน
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนของซีเรีย คาดว่า นักโทษกว่า 30,000 คนในเรือนจำแห่งนี้ถูกประหารชีวิต หรือเสียชีวิตจากการถูกทรมาน เช่น ไม่ได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างเหมาะสม หรืออดอาหารประท้วงกระทั่งเสียชีวิตในช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างปี 2554-2561 พร้อมทั้งเรียกเรือนจำนี้ว่า เสมือนโรงฆ่าคน
#ปลดปล่อยซีเรีย