การจับกุมเครือข่ายยาเสพติด พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6 พร้อมเจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.6. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงจับกุมตัว นายวีรเทพ หรือเทพ คลองจิก พร้อมของกลางยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงกระสอบ 78 กระสอบ กระสอบละ 200,000 เม็ด รวม 15.6 ล้านเม็ด และรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา มีคอกสูง จำนวน 1 คัน
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น. 6 ได้ทำการสืบสวนขยายผลเริ่มต้นจากการจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่ล่อซื้อผ่านทางแอปพลิเคชั่น X เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2566 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ารายสำคัญหลายราย พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมาก และจากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวเมื่อถูกจับกุมไปแล้ว จะนำคนอื่นในเครือข่ายที่ไม่เคยมีประวัติมาทำหน้าที่แทน เมื่อติดตามพฤติการณ์อย่างต่อเนื่อง พบว่า ในช่วงเดือนพ.ย.2567 กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านเชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเคลื่อนไหวขนลำเลียงยาเสพติดหลายครั้ง จึงได้นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานข้อมูลกับหน่วยต่างๆ ไปเฝ้าติดตาม
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 03.00 น. พบรถกระบะ โตโยต้า สีเทา แบบมีคอกเหล็กสูงใช้ผ้าใบปิดคลุม ขับมาที่กลางซอยถนนรณชัย ในพื้นที่ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ขนยาเสพติด จึงได้ทำการสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าวและทำการตรวจค้น พบว่าภายในรถบรรทุกเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ขนม เครื่องดื่มชูกำลัง เส้นบะหมี่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตและนำเข้า มาจากประเทศเพื่อนบ้าน วางไว้อยู่ด้านท้าย และด้านบนเพื่อปกปิดอำพรางการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการตรวจค้นพบกระสอบสีขาว ด้านในบรรจุยาบ้าของกลางดังกล่า
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ทำหน้าที่ขับรถยนต์ไปขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง ตามจุดนัดหมาย แล้วนำยาเสพติดมาพักเก็บไว้ที่โกดังในพื้นที่ อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000-30,000 บาท เป็นรายได้เสริม ประกอบกับมีอาชีพทำงานประจำที่โรงงานย่านนวนคร จ.ปทุมธานี เงินเดือนๆละ 17,000 บาท และเมื่อปลายเดือนพ.ย.
ผู้ต้องหารับว่าได้ร่วมกับกลุ่มคนในเครือข่ายยาเสพติดไปร่วมทริป “น้ำไม่อาบ” ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ อีกด้วย พล.ต.ท.สำราญ กล่าวอีกว่า 3 เคสใหญ่ๆ ที่เจ้าหน้าที่จับกุมยาเสพติดได้ในระยะหลัง ก่อนหน้านี้ เป็นเบาะแสที่ได้รับแจ้งมาจากประชาชน จึงมาแถลงข่าวเพื่อเป็นสร้างความมั่นใจและขอบคุณประชาชนที่แจ้งเข้ามาด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้อง มาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ยาบ้า
#น้ำไม่อาบ