นักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจในเอเชียมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในภูมิภาค รวมถึงการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง พร้อมกลับมาใช้มาตรการภาษีศุลกากรเพื่อปกป้องการค้าสหรัฐฯ
นายอลาสแดร์ สก็อตต์ หัวหน้าฝ่ายเอเชีย-แปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่ในปีนี้ (2567) ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสก็อตต์ ยังเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม อาจส่งผลให้ตลาดเกิดความปั่นป่วน และในการแสดงความเห็นครั้งล่าสุด เขากล่าวว่า ความยืดหยุ่นของเอเชียทำให้ผ่านความวุ่นวายไปได้ แม้ว่าจะมีอุปสรรคหรือปัญหาในระยะยาว เช่น ข้อมูลประชากรและแรงงาน แต่ก็ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในสัปดาห์นี้นายสก็อตต์และนายโยฮันเนส วีแกนด์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเดินทางเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับสถาบันนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ในหัวข้อเกี่ยวกับนายทรัมป์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งเขากล่าวว่า เอเชียแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัว และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคต ทั้งธนาคารกลางของเอเชียยังสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคชะลอตัวลง และธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะผ่อนปรนนโยบายการเงินของตนเองเช่นกัน
...
#เศรษฐกิจเอเชีย
#ไอเอ็มเอฟ