คืบหน้าสถานการณ์ในซีเรีย หลังฝ่ายต่อต้าน นำโดยนายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS)ประกาศแต่งตั้งนายโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ วัย 41 ปี เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีในช่วงการเปลี่ยนผ่านราว 3 เดือนจนถึงวันที่ 1 มี.ค.68 หลังการล่มสลายของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ปิดฉากการปกครอง 50 ปีโดยครอบครัวอัสซาด
เอเอฟพีรายงานอ้างแถลงการณ์จากรัฐบาลเฉพาะกาลของซีเรียว่า นายบาชีร์ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์อัลจาซีราห์ของกาตาร์และสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ของอังกฤษ เมื่อวานนี้(10 ธ.ค.) เป็นการเปิดใจต่อสื่อเป็นครั้งแรก หลังเข้าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้คำมั่นจะนำพาความมั่นคงและความสงบสุขกลับคืนสู่ซีเรียโดยเร็ว เพียง 2 วัน หลังฝ่ายต่อต้านโค่นล้มรัฐบาลของนายอัสซาดสำเร็จเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.โดย ย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะดำรงชีวิตอย่างสงบสุขในซีเรีย โดยรัฐบาลจะจัดทำแผนพัฒนาและฟื้นฟูประเทศใหม่อีกครั้ง เพื่อความความมั่นคงและสงบสุขของประเทศในระยะยาว
นายบาชีร์ ยอมรับว่า ในปัจจุบัน ทุกคนต่างรู้สึกเหนื่อล้ากับสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมาเกือบ 14 ปี และไม่ต้องการให้ประเทศเข้าสู่ปัญหาความแตกแยก จนต้องเกิดสงครามกลางเมืองอีกรอบในอนาคต พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่ยอมให้บ้านเมืองระส่ำระสายอีกในอนาคต ส่วนนายอัสซาด เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของซีเรียเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ NBC ของสหรัฐฯว่า นายอัสซาดหลบหนีออกนอกประเทศในช่วงที่ฝ่ายต่อต้านมุ่งหน้าเข้ายึดกรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(8 ธ.ค.) และขณะนี้ นายอัสซาดไปลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในรัสเซีย พันธมิตรสำคัญของซีเรีย
ด้านนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯเสนอให้รัฐบาลใหม่ของซีเรียประกอบด้วยตัวแทนประชาชนจากทุกภาคส่วน ยึดมั่นเรื่องคุ้มครองสิทธิ์ของชนกลุ่มน้อย พร้อมทั้งประสานองค์กรการกุศลระหว่างประเทศในเรื่องการลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือแก่ประชาชนในซีเรีย และต้องการให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในซีเรียเช่น กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมาเกือบ 14 ปี มีผู้เสียชีวิต 500,000 ราย และทำให้ประชากรครึ่งประเทศละทิ้งถิ่นฐานไปยังพื้นที่ปลอดภัยและประชาชนหลายล้านคนไปลี้ภัยอยู่ในต่างแดน
#สถานการณ์ซีเรีย