NARIT คาดแสงปริศนาแสงปริศนาค่ำ 16 ธ.ค. เป็นจรวดจากจีน

17 ธันวาคม 2567, 20:52น.


          NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผยแพร่รายงาน กรณีที่เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบน จากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัญฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1



          ลักษณะของแสงปริศนาที่มีสีออกขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุดพร้อมกับโคนที่ฟุ้งออกไปเป็นวงกว้าง ดูคล้ายกับภาพถ่ายดาวหาง แต่มีความสว่างกว่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคลื่อนที่ได้ โดยเคลื่อนที่ช้า ๆ เยื้องไปทางทิศเหนือ จากรูปพรรณสัณฐานเช่นนี้ สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับวัตถุจำพวกชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ที่ดับแล้ว โดยจะมีชิ้นส่วนของตัวถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์จรวด พร้อมกับแก๊สขับดันที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว เคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กัน โดยในบางครั้งตัวจรวดอาจจะยังคงมีพลาสมาที่หลงเหลืออยู่ปล่อยออกมาบ้างเล็กน้อย และส่องสว่างเรือง ๆ เป็นสีฟ้าจาง ๆ แต่หากพบเห็นในช่วงหัวค่ำ อย่างในกรณีของเมื่อค่ำวันที่ 16 ธ.ค. 67 อาจจะสะท้อนแสงอาทิตย์ปรากฏเป็นสีขาว



          หากจำกันได้ ประเทศไทยเราเคยพบเห็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกันนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่มีผู้พบเห็นแสงจากชิ้นส่วนจรวดตอนบนของจรวด Ariane 5 ที่บรรทุกกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) 





(ภาพถ่ายชิ้นส่วนจรวดตอนบนของจรวด Ariane 5 ที่บรรทุกกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 มีผู้พบเห็นทั่วประเทศไทย)



          สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจรวดเพียงลำเดียวที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวดทั่วโลกในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นั่นคือจรวด Long March 5B ปล่อยออกจากฐาน Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1 เมื่อเวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงก่อนที่คนไทยจะพบเห็นแสงปริศนา



          ปกติแล้วจรวดที่ปล่อยออกจากพื้นโลกจะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก เพื่อใช้ประโยชน์จากทิศทางการหมุนของโลกในการลดเชื้อเพลิง ดังนั้นจรวด Long March 5B ของจีนจึงไม่ได้ผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศไทยโดยตรงระหว่างการขึ้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจของจรวดนี้เป็นการส่งดาวเทียมเครือข่าย (constellation satellite) เพื่อภารกิจให้บริการอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลภายใต้เครือข่าย GuoWang ของจีน ซึ่งจะต้องอาศัยแรงขับดันหลักจากจรวดตอนบนในการเดินทางไปยังวงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) ก่อนที่ดาวเทียมจะถูกปล่อยออกไป



          ด้วยเหตุนี้ ทำให้ภายหลังจากที่สิ้นสุดภารกิจแล้ว ชิ้นส่วนจรวดตอนบน เชื้อเพลิงบางส่วนที่ถูกขับออกมา และพลาสมาที่ถูกปล่อยทิ้งออกมาในภายหลัง ล้วนแล้วแต่จะเคลื่อนที่ต่อไปในวงโคจรต่ำของโลก ซึ่งใช้เวลาในการโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ เพียงเวลาประมาณ 90-120 นาที ซึ่งเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับเวลาที่พบเห็นทั้งจรวดและเชื้อเพลิงเหนือน่านฟ้าประเทศไทย หลังจากเวลาปล่อยจรวดออกจากฐานประมาณสองชั่วโมงพอดี จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากชิ้นส่วนตอนบนของจรวด Long March 5B ของจีน



          ซึ่งหลังจากที่จรวดและเชื้อเพลิงโคจรรอบโลกไปสักพักหนึ่ง แรงต้านจากชั้นบรรยากาศตอนบนของโลก จะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวค่อยๆ เคลื่อนที่ช้าลง จนไม่สามารถคงวงโคจรต่ำอีกต่อไปได้ ก่อนที่จะเผาไหม้หมดไปในชั้นบรรยากาศระหว่างที่ตกกลับลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกไปในที่สุด





เรียบเรียง: ดร.มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการ NARIT



ภาพ: คุณศรชัย ไพรเนติธรรม บันทึกภาพ ณ บ้านจ่าโบ่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน



#NARIT



#แสงปริศนา



 

ข่าวทั้งหมด

X