ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งลดโทษนักโทษประหารชีวิตของรัฐบาลกลาง 37 คนจากทั้งหมด 40 คน โดยเปลี่ยนเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีสิทธิ์ทัณฑ์บน
ในกลุ่มผู้ที่ได้รับการลดโทษจากประธานาธิบดีไบเดน ประกอบไปด้วยนักโทษ 9 คนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมเพื่อนร่วมเรือนจำ และ 4 คนในคดีฆาตกรรมระหว่างการปล้นธนาคาร และอีก 1 คนในคดีฆ่าเจ้าหน้าที่เรือนจำ
นักโทษ 3 คนที่ไม่รวมอยู่ในคำสั่งนี้ ได้แก่ ผู้ก่อเหตุระเบิดที่งานบอสตันมาราธอนและชายที่สังหารผู้ที่นับถือศาสนายิวในปี 2561
ประธานาธิบดีไบเดน ระบุในแถลงการณ์ว่า เขามีความมั่นใจมากกว่าเดิมว่าควรหยุดการลงโทษประหารชีวิตในระดับรัฐบาลกลาง และการลดโทษนี้สอดคล้องกับการพักโทษประหารชีวิตในกรณีอื่นๆ ที่ไม่ใช่การก่อการร้ายและการฆาตกรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง และขอว่าอย่าเข้าใจผิด เขาประณามฆาตกรเหล่านี้ และขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย
การตัดสินใจของประธานาธิบดีไบเดน เกิดขึ้นก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้งในเดือนมกราคม 2568 ซึ่งในช่วง 6 เดือนสุดท้ายที่เขาดำรงตำแหน่งวาระแรก นายทรัมป์ ลงนามรับรองการประหารชีวิตนักโทษ 13 คน ด้วยการฉีดสารพิษ และระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอีกสมัย นายทรัมป์ ประกาศว่าเขาจะขยายการใช้โทษประหารชีวิตให้ครอบคลุมถึงผู้ค้ามนุษย์และผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้อพยพที่ฆ่าพลเมืองอเมริกันด้วย
#ไบเดน
#ลดโทษ
#ประหารชีวิต