จากเหตุเครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ 190 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน J2-8243 พร้อมผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน เดินทางจากเมืองบากูไปยังเมืองกรอซนี ในเขตเชชเนียของรัสเซีย พุ่งตกใกล้เมืองอักเตาของคาซัคสถาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางน้ำมันและก๊าซ หลังจากบินออกนอกเส้นทาง ผู้โดยสารบนเที่ยวบินส่วนใหญ่มาจากอาเซอร์ไบจาน ส่วนหนึ่งมาจากรัสเซีย คาซัคสถาน และคีร์กีซสถาน
ล่าสุด ประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจาน เรียกร้องให้รัสเซียยอมรับความผิดในเรื่องดังกล่าว เชื่อกันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียโจมตี ขณะพยายามลงจอดในเชชเนีย ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปที่คาซัคสถาน จนทำให้เครื่องตกในที่สุด
เมื่อวันเสาร์(28 ธ.ค.67) ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน ได้กล่าวขอโทษประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน และแสดง ความเสียใจอย่างสุดซึ้งและจริงใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต กรณีเครื่องบินถูกยิงตกในน่านฟ้าของรัสเซีย โศกนาฏกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียกำลังขับไล่โดรนของยูเครน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยอมรับว่า เครื่องบินพยายามลงจอดที่ท่าอากาศยานกรอซนี ในเชชเนียหลายครั้งแล้ว แต่ในเวลานั้น เมืองกรอซนี โมซด็อก และวลาดิคัฟคาซ กำลังถูกโจมตีจากยูเครน และระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถขับไล่การโจมตีเหล่านี้ได้
นายอาลีเยฟ กล่าวหาว่า รัสเซีย ปกปิดเกี่ยวกับการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เครื่องบินตก ในเบื้องต้น ยอมรับคำขอโทษของนายปูติน กล่าวว่า รัสเซียต้องยอมรับความผิดและจ่ายค่าชดเชย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและบุคคลอื่นๆ เชื่อว่า ระบบ GPS ของเครื่องบินได้รับผลกระทบจากการรบกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ และได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดจากขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวว่า รัสเซียต้องหยุดเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลำตัวเครื่องบินนั้น ชวนให้นึกถึงการโจมตีด้วยขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศมาก การรายงานของทำเนียบเครมลิน ไม่ได้ยอมรับโดยตรงว่าเครื่องบินถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย
#อาเซอร์ไบจาน
#เครื่องบินตกในคาซัคสถาน
#รัสเซีย