ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ‘Yong Poovorawan’ เปิดเผยเรื่องการระบาดของไวรัส HMPV (Human meta-pneumovirus) ว่าไม่ใช่ไวรัสใหม่ ไวรัสนี้มีมานานมากแล้ว แต่เพิ่งจะมาพบในปี ค.ศ. 2000 โดยทีมนักไวรัสวิทยา ที่ Erasmus University เนเธอร์แลนด์ แยกไวรัสนี้ได้จากเด็กเล็ก 2 ราย ที่ป่วยเป็นปอดอักเสบรุนแรง และตรวจไม่พบไวรัสที่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงใช้วิธีการทางชีวโมเลกุล ตรวจชิ้นส่วน RNA โดยวิธีการสุ่ม เมื่อเปรียบเทียบพันธุกรรม คล้ายคลึงกับ Avian pneumovirus ในนก แต่เมื่อมาทดสอบกับสัตว์ทดลอง ใช้ไก่งวงแทนนก และลิง พบว่าไก่งวงไม่เป็นโรค แต่ลิงมีน้ำมูกไหล เป็นหวัด จึงรู้ว่าไวรัสตัวนี้ไม่ได้ข้ามมาจากนก
ต่อมาได้มีการเอาน้ำเหลืองที่เก็บไว้มานานกว่า 50 ปี มาตรวจก็พบว่ามีปฏิกิริยาภูมิต้านทานต่อไวรัสตัวนี้แล้วโดยเฉพาะในผู้ใหญ่ แสดงว่าไวรัสนี้มีมานานมากกว่า 50 ปี เมื่อแยกพันธุกรรมทั้งตัว ก็สามารถที่จะพัฒนาวิธีการตรวจ และองค์ความรู้เพิ่มมากขึ้น
ทางศูนย์ไวรัสของเราที่จุฬา ได้ทำการตรวจมาตั้งแต่ปี 2001 และเผยแพร่ในวารสาร Scand J Infect Dis. 2003;35(10):754-6. doi: 10.1080/00365540310000094. Human metapneumovirus infection in Thai children และหลังจากนั้นก็มีการเผยแพร่ในวารสารเป็น ภาษาอังกฤษ ในนานาชาติเรื่อยมา อีก 3 รายงาน
พบไวรัสนี้ในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในเด็ก ประมาณร้อยละ 4 และต่อมาก็ได้มีการตรวจอย่างต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน พบไวรัสนี้ประมาณร้อยละ 4-8 เป็นไปตามฤดูกาลกับโรคทางเดินหายใจอื่น จะพบมากในฤดูฝน และช่วงฤดูหนาวอีกเล็กน้อย
อาการของไวรัสนี้ไม่แตกต่างกับไวรัสตัวอื่น ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจพบได้ ตั้งแต่ไม่มีอาการ อาการน้อย จนถึงอาการมากลงปอด พบได้ทุกอายุ แต่พบได้มากในเด็ก และก่อนหน้านี้ไม่มีวิธีการตรวจ นอกจากใช้ทางชีวโมเลกุล ปัจจุบันการตรวจง่ายมาก ใช้วิธีการเช่นเดียวกับ ATK ของโควิด-19 จึงได้มีการพูดถึงกันมากขึ้น
การดูแลรักษาและการป้องกัน ทำได้เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ดูแลเรื่องสุขลักษณะ ให้ร่างกายแข็งแรง ล้างมือ ใครมีอาการทางเดินหายใจ ไม่ควรไปโรงเรียน หน้ากากอนามัยให้ใส่ในผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปสู่คนอื่น
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า ไวรัสชนิดนี้ยังไม่มีวัคซีนมีหลายปัจจัย นอกจากองค์ความรู้ที่มีน้อยเมื่อเทียบกับไวรัสทางเดินหายใจอื่นๆอย่าง RSV หรือ Influenza แล้ว ผลกระทบของการระบาดของ HMPV ยังน้อยกว่าไวรัสตัวอื่นทำให้แรงจูงใจของการวิจัย ด้านการพัฒนาวัคซีนจึงไปช้ากว่ามาก เพราะเชื่อว่าแทบทุกคนเคยติดไวรัสตัวนี้มาแล้วภูมิคุ้มกันมีอยู่ไม่มากก็น้อย วัคซีนอาจมีบทบาทไม่มาก
ดร.อนันต์ โพสต์ว่า มีคนแชร์ข้อความเรื่องจีนประกาศภาวะฉุกเฉินจากการระบาดของ HMPV กันเยอะมาก แต่ยังไม่เห็นเอกสารหรืออะไรที่เป็นทางการจริงๆออกมาเลยครับทั้งจากหน่วยงานของจีนหรือ WHO...ถ้ามีอะไรน่ากังวลไวรัสจะต้องถูกเพาะเชื้อและถอดรหัสออกมาแล้วครับ ช่วงหน้าหนาวไวรัสในระบบทางเดินหายใจจะแพร่กระจายไว ติดง่าย ภาพคนป่วยไปหาหมอเยอะขึ้นจึงเป็นเรื่องปกติของการระบาดของหวัดตามฤดูกาล แต่สังเกตดีๆครับว่าผู้ป่วยเหล่านั้นไม่นอนใส่เครื่องช่วยหายใจ หรือใช้ออกซิเจนเหมือนตอนโควิด-19 แทบไม่มีใครนอนโรงพยาบาลเลย (ไม่รวมภาพที่สื่อทำขึ้นเพื่อการโฆษณา) ข้อเท็จจริงคือ HMPV ติดง่ายตามฤดูกาล แต่ไวรัสไม่ได้เป็นไวรัสอุบัติใหม่ คนส่วนใหญ่เคยติดมาแล้ว ภูมิจากการเคยติดมาแล้วนี่แหล่ะครับจะช่วยให้อาการเบาไม่รุนแรง ยกเว้นเด็กเล็กที่ยังไม่มีภูมิ หรือ ผู้สูงอายุที่ภูมิไม่ดีซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ HMPV แต่ไวรัสตัวอื่นด้วย สมัยนี้ทีมวิจัยแข่งกันไวมากด้วยเทคโนโลยี ถ้ามีอะไรจริงๆไม่ต้องห่วงหรอกครับ รีบตีพิมพ์ รีบแถลงข้อมูลแน่นอน
#ไวรัสHMPV
Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ Yong Poovorawan,Anan Jongkaewwattana