'ทรัมป์' อาจปรับท่าที ลดการจัดเก็บภาษีนำเข้า เน้นเฉพาะสินค้าสำคัญ

          หลังจากมีรายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนที่จะผ่อนคลายนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้า ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก รายงานระบุว่า นายทรัมป์ กำลังพิจารณาจัดเก็บภาษีศุลกากรที่จะใช้กับสินค้านำเข้าที่สำคัญเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นการผ่อนคลายความกังวลสำหรับประเทศต่างๆ ที่คาดว่าจะมีการจัดเก็บภาษีในวงกว้างขึ้น

          จากปัจจัยของนายทรัมป์  อาจปรับท่าทีดำเนินนโยบายรีดภาษีน้อยกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันจันทร์ (6 ม.ค.68) โดยเอสแอนด์พี 500 และแนสแดค แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ได้แรงหนุนจากหุ้นเซมิคอนดักเตอร์

-ดาวโจนส์ ลดลง 25.57 จุด (0.06%) ปิดที่ 42,706.56

-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 32.91 จุด (0.55%) ปิดที่ 5,975.38 จุด

-แนสแดค เพิ่มขึ้น 243.30 จุด (1.24%) ปิดที่ 19,864.98 จุด

          ขณะที่ นักลงทุน จับตาการเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

          ส่วนราคาทองคำ ปิดลบในวันจันทร์ (6 ม.ค.68) หลังพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น และ ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

-สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.67 ลดลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 2,647.40 ดอลลาร์/ออนซ์

         โกลด์แมน แซคส์ ลดคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2568 จากก่อนหน้านี้คาดว่าจะถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (ประมาณ 103,511 บาท) ลดลงมาอยู่ที่ 2,910 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (ประมาณ 100,779 บาท) เหตุธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด การผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ช้าลง ทำให้มีความต้องการลงทุนในกองทุนอีทีเอฟที่อ้างอิงราคาทองคำน้อยลง นอกจากนี้ เมื่อเดือนธ.ค.67 กระแสเงินไหลเข้ากองทุนอีทีเอฟ น้อยกว่าที่คาดไว้ เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนได้ผ่อนคลายลงหลังทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

#ทรัมป์

#นโยบายภาษี

แฟ้มภาพ