แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด ออกหมายจับคนร้ายยิง'ลิม กิมยา' สอบปากคำภรรยาเพิ่ม หาปมสังหาร

         กรณีคนร้าย ยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกัมพูชา เสียชีวิต เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.68) เหตุเกิดบริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ถนนบวรนิเวศน์ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. 

          เวลา 00.20 น. วันที่ 8 ม.ค.67 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ทราบว่ามีหมายจับอยู่ก่อน มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการ สืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินการต่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม คาดว่าผู้ก่อเหตุจะเดินทางมาสำรวจสถานที่ก่อน และพอจะทราบเส้นทางการหลบหนี ตำรวจกำลังรีบดำเนินการจับกุมตัวให้เร็วที่สุด แต่คนร้ายค่อนข้างระวังตัว และอาจติดตามข่าวจากสื่อด้วย

           ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม พาภรรยาของนายลิม ไปสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อหาสาเหตุปมสังหาร

          เพจดาวแปดแฉก เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพเมื่อเวลา 10.46 น. ของวันที่ 7 ม.ค.68 ขณะที่นายลิม กำลังเดินเข้าช่องตรวจของด่านตรวจคนเข้าเมืองคลองลึก จ.สระแก้ว จากนั้น นายลิม และภรรยาชาวฝรั่งเศส เดินทางไปขึ้นรถบัสรวมผู้โดยสารทั้งหมด 23 คน ขึ้นรถบัสบริเวณตลาดคลองลึก จ.สระแก้ว โดยสารมาลงที่ตลาดบางลำภู กรุงเทพฯ มาถึงช่วงเย็นในวันเดียวกัน ระหว่างที่นายคิม และภรรยา ลงจากรถแล้วยืนรอบริเวณวงเวียนสิบสามห้าง นายคิม ถูกคนร้ายใช้ปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

          จากภาพวิดีโอวงจรปิด จะเห็นว่า คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ มาจอดตั้งแต่เวลา 17.26 น. และถอดหมวกกันน็อกออก และนั่งรออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์เป็นเวลานาน จากนั้นเวลา 17.39 น. คนร้ายได้ลุกขึ้นมาจากมอเตอร์ไซค์ และข้ามถนนไปยังเกาะกลาง เวลา 17.45 น. คนร้าย ยิงจำนวน 3 นัด ก่อนเก็บปืนเข้ากระเป๋า และ วิ่งข้ามฝั่งมายังมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งเอาไว้ สตาร์ทรถหนีออกไปอย่างใจเย็น ขณะที่คนบริเวณโดยรอบ ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้น เวลา 17.46 น. ได้ขับผ่านบริเวณหน้าถนนพระสุเมรุ อย่างรวดเร็ว

          สาเหตุการสังหาร ชุดสืบสวน ยังไม่สรุปมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย เนื่องจากพฤติการณ์ก่อเหตุน่าจะมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการสืบสวนทราบว่า ผู้โดยสารชาวกัมพูชาคนหนึ่ง จากผู้โดยสาร 23 คน ที่เดินทางมาพร้อมกับนายคิม เมื่อช่วงเช้าเมื่อวานนี้ แต่พบว่า เวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อวานนี้ เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองคลองลึก เพื่อเดินทางกลับประเทศกัมพูชา ทำให้ชุดสืบสวน ตั้งข้อสงสัยว่าชายชาวกัมพูชา คนนี้อาจมีรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายคิมหรือไม่

          ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม,สืบสวนนครบาล,สืบสวน กก.สส.บก.น.1 หาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุรวมทั้งภาพจากกล้อวงจรปิด บันทึกภาพพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุได้ชัดเจน

         จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ทะเบียนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้หลบหนีมี "นาย จ."อยู่ในพื้นที่ อ.สามเงา จ.ตาก เป็นเจ้าของรถ จึงเร่งตรวจสอบข้อมูลให้เกิดความถูกต้องชัดเจนว่ามีการโอนขายให้บุคคลอื่นอีกหรือไม่

         ต่อมา ชุดสืบสวนติดตามพบเจ้าของรถจักรยานยนต์ เชิญตัวมาซักถาม ได้ข้อมูลว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อนสนิทเคยยืมไปใช้และไม่ได้นำรถจักรยานยนต์มาคืน ซึ่งทราบภายหลังว่าเพื่อนนำไปก่อคดีในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จากนั้นก็ไม่ทราบเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์คันนี้

         อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตำรวจได้เบาะแสเพิ่มเติมรวมถึงภาพผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายคิม โดยผู้ก่อเหตุไม่ได้ปิดบังใบหน้า ทำให้ชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุคือ "นายเอ็ม" เป็นอดีตทหาร และขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างภายใน ซ.สุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งพบเบาะแสสำคัญ

        ชุดสืบสวน นำพยานหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวน รวบรวมยื่นคำร้องต่อศาลอาญา พิจารณาออกหมายจับมือปืนที่ก่อเหตุ ซึ่งศาลอาญา พิจารณาออกหมายจับ "นาย หรือ เอ็ม" อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพฯ ที่ 84/2568 ลงวันที่ 8 ม.ค.68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน"

         รายงานข่าวแจ้งว่าชุดสืบสวนติดตามจับนายเอ็ม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่านายเอ็ม เป็นบุคคลอยู่ในทะเบียนบ้านกลาง ไม่สามารถยืนยันที่อยู่ได้ แต่ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่านายเอ็ม มีหนังสือเดินทางระบุสถานที่เกิด จ.จันทบุรี จึงแจ้งหมายจับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่าน เพื่อนำข้อมูลหมายจับลงในระบบ

#ยิงนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

#กัมพูชา

Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ดาวแปดแฉก,มูลนิธิร่วมกตัญญู