การจัดพิธีศพนายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯ ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่เมืองเพลนส์ บ้านเกิดในรัฐจอร์เจียเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.67 ในวัย 100 ปี หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาหลายปี
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันอังคาร(7 ม.ค.68) กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ใช้เครื่องบิน ลำเลียงศพของนายคาร์เตอร์จากรัฐจอร์เจียมาที่อนุสรณ์สถานกองทัพเรือในกรุงวอชิงตันดี.ซี. จากนั้น ใช้รถเทียมม้าของทหารกองเกียรติยศ แห่ขบวนศพ เคลื่อนผ่านถนนเพนซิลเวเนียและถนนคอนสติติวชั่น มุ่งหน้ามาที่อาคารสภาคองเกรส เมื่อมาถึงอาคารสภา หน่วยปืนใหญ่ของกองทัพสหรัฐฯยิงสลุต 21 นัด เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตผู้นำสหรัฐฯ ในช่วงที่ทหารกองเกียรติยศช่วยกันแบกโลงศพของอดีตผู้นำสหรัฐฯคลุมด้วยธงชาติข้ามบันไดของอาคารเข้าไปตั้งไว้ในห้องโรทันดา สถานที่ที่รัฐบาลสหรัฐฯเป็นเจ้าภาพจัดงานรัฐพิธี 3 วัน เริ่มจากวันอังคาร(7 ม.ค.68) จนถึงเช้าวันพฤหัสบดีนี้(9 ม.ค.68) เพื่อให้สมาชิกสภาคองเกรสและประชาชนทั่วไปร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ทั้งนี้ มีการจัดเจ้าหน้าที่ทหารกองเกียรติยศดูแลศพของอดีตผู้นำสหรัฐฯไปจนเสร็จพิธี และเปิดให้สาธารณชนร่วมไว้อาลัยตั้งแต่เวลา 18.00น. ของวันอังคาร 7 ม.ค.68
ขณะเดียวกัน เมื่อบ่ายวานนี้ บรรดาผู้นำสภาคองเกรส เช่น นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นายจอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯและรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ร่วมกล่าวคำอาลัย ยกย่องแนวทางการดำเนินชีวิต ความศรัทธาและผลงานต่างๆในยุคที่นายคาร์เตอร์บริหารประเทศ ระหว่างปี 2520 ถึง 2524 มีผลงานสำคัญๆเช่น เป็นคนกลางช่วยเจรจาสันติภาพอิสราเอลกับอียิปต์ในปี 2522 การปรับความสัมพันธ์ทางการทูตเข้าสู่ภาวะปกติกับประเทศจีนและการทำสนธิสัญญาให้ปานามาเข้าควบคุมคลองปานามาแทนสหรัฐฯ
สำหรับวันพฤหัสบดีนี้จะมีการจัดพิธีทางศาสนาที่โบสถ์แห่งชาติกรุงวอชิงตัน(Washington National Cathedral)ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะกล่าวปราศรัยไว้อาลัยแก่นายคาร์เตอร์ ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตผู้นำสหรัฐฯและครอบครัว หลังสิ้นสุดงานรัฐพิธีแล้ว กองทัพเรือสหรัฐฯจะลำเลียงศพกลับไปให้ครอบครัวของนายคาร์เตอร์ทำพิธีฝังที่บ้านเกิดในรัฐจอร์เจีย
#สหรัฐ
#รัฐพิธีศพจิมมีคาร์เตอร์