เหตุการณ์แรกวิ่งราวทรัพย์ 5 ล้านบาทคดีผู้เสียหายชาวจีน ติดต่อขอซื้อเหรียญดิจิทัลผ่านคนกลางเป็นชาวจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ห้วยขวาง โดยนัดเจอเพื่อซื้อขาย ผู้เสียหายพร้อมเพื่อนชายอีก 1 คน จึงนำเงินสด 5 ล้านบาท ใส่กระเป๋า เตรียมมาจ่ายค่าเหรียญดิจิทัล เมื่อมาถึงจุดนัดพบ กลุ่มคนร้ายอยู่ด้วยกัน 3 คน เป็นชายชาวจีน 2 คนและคนไทยอีก 1 คน โดย 1 ในคนร้ายทำทีเป็นโอนเงินดิจิทัล แต่เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบกลับไม่ได้รับเหรียญดังกล่าว แต่คนร้ายยังคงยืนยันว่าได้โอนเหรียญไปแล้ว และพยายามแย่งชิงเงิน แต่ผู้เสียหายไม่ยอม จึงถูกจับมัดมือด้วยเข็มขัด และขังไว้ภายในตัวอาคาร ก่อนที่คนร้ายจะนำเงินดังกล่าว ขึ้นรถตู้ อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน 2ขล 2233 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป ขณะที่ผู้เสียหายได้พยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามแก้มัดจนสำเร็จ ก่อนจะวิ่งออกมาจากอาคาร ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างในบริเวณดังกล่าวไป แต่ตามไม่ทัน พลาดกันบริเวณย่านแยกมักกะสัน จึงได้เดินทางมา สน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ผู้เสียหายแจ้งว่า เขาไม่ได้ถูกมัดหรือถูกทำร้าย แต่เขาได้กระโดดลงมาจากชั้น 2 ของบ้านเพื่อตามเงิน จึงทำให้มีแผลบ้าง ส่วนที่โดนเข็มขัดรัดที่ข้อมือ ยังไม่ทราบข้อมูล จะต้องขอตรวจสอบก่อน
ขณะที่ ตำรวจฝ่ายสืบสวน ไล่กล้องวงจรปิด และตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถดังกล่าว จนพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของชายไทยคนหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มคนร้าย อาศัยอยู่ย่านยานนาวา ตำรวจจึงเข้าทำการตรวจค้นและยึดรถคันดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพบเงินสด จำนวน 5 ล้านบาทอยู่ในห้องพัก จึงยึดเงินทั้งหมด พร้อมรถมาตรวจสอบที่ สน.ห้วยขวาง ส่วนเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ข้อมูลบ้างแล้ว
ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยกรณีคนกลางที่ติดต่อผู้เสียหายกับคนร้าย ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่า เคยทำธุรกรรมทำนองนี้โดยมีคนกลางมา 3-4 ครั้งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนกลางน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุหลักเพราะเป็นตัวกลางที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกัน และพอฝั่งหนึ่งโอนเงินคริปโตให้ผู้เสียหายแต่คนกลางไม่ยอมโอนต่อ
ส่วนเหตุที่ 2 เกิดขึ้นที่อาคารย่านพระราม 9 ผู้เสียหาย 2 คนนำเงินสด 8 ล้านบาท มาแลกเหรียญดิจิทัลกับชาวจีน 4 คน เป็นเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกัน คือ คนกลางเป็นผู้นัดให้ฝั่งที่ต้องการแลกมาพบฝั่งที่มีเงินดิจิทัลเพื่อแลกเปลี่ยนกัน พบว่าคนกลางนั้น คือ คนคนเดียวกันกับเคสเงิน เงิน 5 ล้านบาท รูปแบบและวิธีการเหมือนกัน
อีกด้าน รายงาน ระบุว่า เคสเงิน 8 ล้านบาท อาจเป็นเหตุเข้าใจผิด ผู้เสียหายกับคู่กรณีอยู่ระหว่างการเจรจา ฝ่ายสืบสวน ตามจับผู้ก่อเหตุได้ 2 คนแล้ว พร้อมทั้งเงินยังอยู่ครบ 8 ล้านบาท อยู่ระหว่างนำตัวมาพบผู้เสียหาย และสอบปากคำที่ สน.ห้วยขวาง
#จีนหลอกจีน
แฟ้มภาพ