นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของประเทศไทยในปัจจุบันที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ดำเนินงานตามมาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ภาคคมนาคม พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภาคคมนาคมขนส่ง ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดตรวจสอบและบำรุงรักษายานพาหนะให้มีสภาพดี มีค่าควันดำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือพลังงานสะอาด เช่น น้ำมันไบโอดีเซล B10 และ B20 ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บเงินบนทางพิเศษและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทุกสายทาง
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่างๆ เข้มงวดให้ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า-ออกพื้นที่ก่อสร้าง กวาดล้างถนนที่เปื้อนดินจากการก่อสร้าง ปิดคลุมวัสดุก่อสร้างในการเก็บกองและขนย้าย และจัดการขยะอย่างเหมาะสม ห้ามเผาเด็ดขาด รวมทั้งติดตามตรวจสอบยานพาหนะและอุปกรณ์ในพื้นที่ก่อสร้างให้อยู่ตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด หากพบว่าไม่ผ่าน ห้ามนำมาใช้เด็ดขาด จนกว่าจะปรับปรุงให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ขณะที่กรมการขนส่งทางบก ออกตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารด้วยการตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ หากพบค่าควันดำเกินกว่าร้อยละ 30 จะมีความผิดตามมาตรา 71 ฐานนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้งาน ถูกพ่นห้ามใช้รถและปรับ 5,000 บาท ทุกราย
...
แฟ้มภาพกรมการขนส่งทางบก
#ลดฝุ่นPM
#กระทรวงคมนาคม