สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผู้พิพากษาศาลนครแมนฮัตตันยืนยันการตัดสินในวันศุกร์ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความผิดในคดีเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ แต่ตัดสินไม่สั่งลงโทษใด ๆ ซึ่งเปิดทางให้ทรัมป์สามารถก้าวเดินเข้าสู่ทำเนียบขาวใน 10 วันข้างหน้าโดยไม่ต้องกังวลว่าอาจต้องโทษจำขังหรือต้องจ่ายค่าปรับใด ๆ ในคดีนี้อีกต่อไป
การตัดสินความผิดและลงโทษด้วยการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข (unconditional discharge) ในครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากคดีที่ฉีกบรรทัดฐานกระบวนการทางกฎหมายที่ทำให้ทุกคนได้เห็นภาพทรัมป์ซึ่งเป็นทั้งอดีตประธานาธิบดีและว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกฟ้องว่าทำความผิด 34 กระทง ขึ้นให้การในการไต่สวนคดีเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนและถูกตัดสินว่ามีความผิดในทุกกระทง ได้กลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในสมัยที่ 2 อีกครั้ง แม้การไต่สวนฟ้องร้องจะยืดยาวและมีการเปิดโปงข้อมูลสกปรกต่าง ๆ เกี่ยวกับความพยายามล้มคดีที่พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจผู้มีสิทธิเลือกได้เลย
ในคดีเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่นี้ ผู้พิพากษาฮวน เอ็ม เมอร์ชาน สามารถสั่งจำคุกทรัมป์เป็นเวลาสูงสุดถึง 4 ปีได้ แต่ก็เลือกที่จะเลี่ยงปัญหาที่มาจากเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญด้วยการยุติคดีนี้เสีย และเพียงทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่า ทรัมป์คือ คนแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาแต่ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี
ผู้พิพากษาเมอร์ชานกล่าวว่า ได้พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างดีก่อนจะตัดสินลงโทษในคดีนี้ของทรัมป์แล้ว แต่การคุ้มครองทางกฎหมายในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ “คือปัจจัยที่ลบล้างปัจจัยอื่น ๆ จนหมดสิ้น” และว่า “แม้จะมีการคุ้มครองทางกฎหมายต่าง ๆ ที่ครอบคลุมมากเป็นพิเศษเช่นนี้ สิ่งหนึ่งอำนาจของรัฐธรรมนูญไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้คือ การลบคำตัดสินของคณะลูกขุนออกไปได้”
ก่อนนี้มีความเคลื่อนไหว ทั้งการออกมาเรียกร้องให้มีการตอบโต้แก้เผ็ดทุกคนที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ รวมถึงการเพิกถอนสิทธิการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาเมอร์ชาน ซึ่งล้วน “ก่อความเสียหายหนักต่อความเข้าใจของสาธารณชนต่อกระบวนการยุติธรรมทางอาญาและทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งหลายในศาลตกอยู่ในอันตราย”
ในคดีนี้ ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่า ปลอมแปลงข้อมูลทางการเงินช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 เพื่อปกปิดค่าใช้จ่าย 130,000 ดอลลาร์ที่เขาใช้ในการปิดปาก สตอร์มีย์ แดเนียลส์ อดีตดาราหนังผู้ใหญ่ เรื่องความสัมพันธ์ลับของทั้งสองคนเมื่อปี 2006
. ทรัมป์ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศใด ๆ กับแดเนียลส์และโต้ว่า ศัตรูทางการเมืองปั่นเรื่องขึ้นให้กลายมาเป็นการดำเนินคดีเพื่อทำลายตน
ผู้พิพากษาเมอร์ชานซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตเลื่อนกำหนดการตัดสินลงโทษทรัมป์มาหลายครั้ง จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้วที่ประกาศว่า จะทำการตัดสินในวันศุกร์โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้ “สิ้นสุด” กระบวนการเสียที และเขียนในบันทึกคำตัดสินว่า ได้พยายามสร้างสมดุลระหว่าง ความต้องการขึ้นบริหารประเทศของทรัมป์ กับคำพิพากษาที่ให้การคุ้มครองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของศาลสูงและการให้ความเคารพต่อคำตัดสินของคณะลูกขุน รวมทั้งความคาดหวังของประชาชนที่ว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย”
ทีมทนายของทรัมป์พยายามอย่างหนักไม่ให้ผู้พิพากษาเมอร์ชานทำการตัดสินลงโทษตามแผน แต่ต้องผิดหวังเมื่อตุลาการศาลสูงมีมติ 5-4 เมื่อวันพฤหัสบดี ปฏิเสธคำร้องขอให้มีการเลื่อนการตัดสินคดีนี้ออกไป