รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (13 ม.ค.) เปิดเผยว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ความเห็นประกอบ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ ว่าในการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรตามกิจกรรมที่กำหนดในบัญชีแนบท้ายร่างพระราชบัญญัติฯ จะมีบทบาทในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ก่อให้เกิดการลงทุนและการจ้างงานใน
ธุรกิจหลากหลายประเภท สร้างรายได้ให้แก่ภาครัฐผ่านการนำเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น ทั้งนี้ มีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
1.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรควรมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนสามารถได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยการดำเนินธุรกิจที่สุ่มเสียง อาทิ กาสิโนต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
2.เงินจากการพนันมีลักษณะเป็น "เงินโอน (Transfer)" จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเนื่องจากไม่ทำให้เกิดผลผลิต (Production) ดังนั้น ธุรกิจกาสิโนอาจจะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่มีการคาดการณ์ไว้
3.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตามบัญชี
แนบท้ายร่างพระราชบัญญัติฯ เป็นลำดับแรก และ
4.ธุรกิจกาสิโน เป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม ประกอบกับหลายภาคส่วนยังคงเห็นต่างกับแนวทางการดำเนินการ
ดังนั้น กระทรวงการคลัง ควรศึกษา ผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจนและระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ตลอดจนศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป
ครม.เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ส่งกฤษฎีกา ตีความประเด็นที่พม.มีข้อห่วงใย
วันนี้ประชุมคณะรัฐมนตรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จ.นครสวรรค์ในช่วงบ่าย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันนี้ โดยในชุดทำงานของตนได้หารือกันอย่างละเอียด ถึงความประโยชน์และความจำเป็น และสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ และวันนี้รายได้ที่มาจาก Entertainment Complex มีมากมาย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ เห็นชอบหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ส่งกฤษฎีกาดูเพิ่มเติม
โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการ ร่าง.พ.ร.บ. ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จัดส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยได้ให้สำนักงานกฤษฎีกาดูเพิ่มเติมบางประเด็น ตามที่กระทรวงพม.มีข้อห่วงใย
ลำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … กำหนดประเภทธุรกิจสถานบันเทิงไว้ 10 ประเภท ได้แก่ 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโก้เธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอชต์และครูซซิ่งคลับ 6.สถานที่เล่นเกม 7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP และ 10.กิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด นอกจากนั้นยังกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมต่าง อาทิ ใบอนุญาตครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท ต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท
ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกฯ-รมว.คลังระบุว่า ในหลักการเกือบ 90% เห็นด้วยหมด อาจจะมีไม่เห็นด้วย 1-2 ราย แต่ที่เหลือเห็นด้วยหมด ซึ่งมีข้อสังเกต เช่น ห่วงเรื่องกาสิโน กลัวคนไทยหรือเด็กจะเข้าไปเล่น อายุได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไว้ ซึ่งเรื่องนี้มีคณะกรรมการนโยบายและหน่วยงานคอยดูแลอยู่ ดังนั้น จะหยิบเรื่องนี้มาดู ว่าจะกำกับอย่างไร แต่สิ่งที่ตั้งใจ คือให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า
นายพิชัย ยืนยันว่าเรื่องกาสิโนเป็นเพียงส่วนน้อย รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องอื่น เช่น โรงแรม ร้านอาหาร หรือ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง และหากอยู่ในที่เหมาะสมบริเวณใกล้เคียงก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย และช่วยทำให้การจ้างงานเพิ่มขึ้น
#ข้อท้วงติง
#เปิดบ่อนกาสิโน
แฟ้มภาพ