กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 3 เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (15 ม.ค.68) ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค.68 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
-วันที่ 15-16 ม.ค.68: จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และ สตูล
-วันที่ 17-18 ม.ค.68: จ.สงขลา ปัตานี ยะลา และนราธิวาส
-เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค.68
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 11 จังหวัดภาคกลางและภาคใต้ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 15-18 ม.ค.68
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์
**พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง
*ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่
-จังหวัดนครศรีธรรมราช 3 อำเภอ (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอท่าศาลา และอำเภอลานสกา)
-จังหวัดพัทลุง 3 อำเภอ (อำเภอป่าบอน อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอกงหรา)
-จังหวัดสงขลา 6 อำเภอ (อำเภอระโนด อำเภอควนเนียง อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอสะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย)
-จังหวัดปัตตานี 10 อำเภอ (อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอไม้แก่น อำเภอกะพ้อ อำเภอยะรัง อำเภอสายบุรี อำเภอยะหริ่ง อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอปะนาเระ อำเภอหนองจิก และอำเภอมายอ)
-จังหวัดยะลา 6 อำเภอ (อำเภอเมืองยะลา อำเภอกรงปินัง อำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา อำเภอยะหา และอำเภอรามัน)
-จังหวัดนราธิวาส 11 อำเภอ (อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอบาเจาะ อำเภอศรีสาคร อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอจะแนะ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอตากใบ)
-จังหวัดตรัง 6 อำเภอ (อำเภอเมืองตรัง อำเภอวังวิเศษ อำเภอย่านตาขาว อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง และอำเภอปะเหลียน)
-จังหวัดสตูล 5 อำเภอ (อำเภอเมืองสตูล อำเภอทุ่งหว้า อำเภอมะนัง อำเภอควนกาหลง และอำเภอควนโดน)
**พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง
*ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ทุกอำเภอ)
*ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่
-จังหวัดชุมพร 6 อำเภอ (อำเภอเมืองชุมพร อำเภอปะทิว อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม)
-จังหวัดสุราษฎร์ธานี 8 อำเภอ (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอพุนพิน อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน)
-จังหวัดนครศรีธรรมราช 6 อำเภอ (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอขนอม อำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา อำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร)
-จังหวัดสงขลา 7 อำเภอ (อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา)
-จังหวัดปัตตานี 6 อำเภอ (อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอหนองจิก อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น)
-จังหวัดนราธิวาส 2 อำเภอ (อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอตากใบ)
ปภ.ประสานแจ้ง 11 จังหวัดภาคกลางและภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต ให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัยให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่
กรณีที่มีคลื่นลมแรง ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนบริเวณชายฝั่งทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำโดยเด็ดขาด และให้แจ้งชาวเรือ ผู้บังคับเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามเดินเรือเด็ดขาด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง
#เตือนใต้ฝนตกหนัก
Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ กรมอุตุนิยมวิทยา,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยDDPM