กลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า คณะผู้แทนของกลุ่มได้ส่งรายงานความเห็นชอบข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนนักโทษให้กับผู้ไกล่เกลี่ยแล้ว โดยจะแลกเปลี่ยนตัวประกัน 33 คนที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซากับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 1,000 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังไม่ได้ออกประกาศ โดยอ้างว่ายังมีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข สำนักงานของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่ายังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการหยุดยิง แต่รายละเอียดขั้นสุดท้ายอาจจะได้รับการสรุปภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หากข้อตกลงหยุดยิงผ่านการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี ก็จะมีการส่งต่อไปยังศาลฎีกาอิสราเอล เพื่อให้การรับรองภายในเวลา 24 ชั่วโมง
ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุล ราห์มาน อัล ธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้ (19 ม.ค.68) หากคณะรัฐมนตรีของอิสราเอลเห็นชอบ รายงานระบุว่า คาดว่าข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้อย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ที่ 17 ม.ค.68 และการปล่อยตัวประกันกลุ่มแรกจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.68
ภายหลังจากที่กลุ่มฮามาสเผยแพร่ประกาศ ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจำนวนมากร่วมแสดงความยินดีที่สงครามสิ้นสุดลง และคาดหวังว่าจะได้กลับบ้านในเร็วๆ นี้
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบนทรูธ โซเชี่ยลว่า ข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันในฉนวนกาซาได้ข้อสรุปแล้ว พวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวในเร็วๆ นี้ และอ้างว่า ความก้าวหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นจาก "ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของเขา" ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพ.ย.67 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่ารัฐบาลของเขาจะพยายามแสวงหาสันติภาพ และเจรจาข้อตกลงเพื่อรับประกันความปลอดภัยของชาวอเมริกันทุกคนและพันธมิตรของสหรัฐฯ โดยอ้างว่า เขาประสบความสำเร็จมากมายโดยที่ยังไม่ได้อยู่ในทำเนียบขาวด้วยซ้ำ
ขณะที่ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็อ้างความสำเร็จของการทำข้อตกลงในครั้งนี้เช่นกัน เพราะเนื้อหาของขอตกลงฉบับนี้ แทบจะเหมือนกับข้อเสนอที่ทีมงานของเขาเสนอไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 67
อย่างไรก็ตาม กลุ่มรณรงค์เพื่อชาวปาเลสไตน์ในสหรัฐฯ (USCPR Action) เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีบุคคลที่สั่งการโจมตีฉนวนกาซา โดยระบุว่า “ยุคแห่งการกระทำความผิดทางอาญาแล้วไม่ต้องรับโทษจะต้องสิ้นสุดลง” โดยเรียกร้องให้ดำเนินคดีผู้ก่ออาชญากรรมทุกคนที่ศาลกรุงเฮก รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน ที่ให้ทุนและสนับสนุนการก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นทุกคนต้องได้รับการรับรองสิทธิในการกลับบ้านเกิดและที่ดินของตน ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุด ยุติการปิดล้อมฉนวนกาซาโดยผิดกฎหมายของอิสราเอลและการยึดครองปาเลสไตน์ด้วยกองทหาร
องค์กรช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) แสดงความยินดีที่ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องเพิ่มการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เด็กๆ ทั่วฉนวนกาซา
ด้านนักวิจารณ์ทางการเมืองในเทลอาวีฟ มีความเห็นว่า การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยอมรับข้อตกลงหลังจากที่สงครามในฉนวนกาซาดำเนินมานาน 15 เดือน ก็เพราะสังคมและเศรษฐกิจอิสราเอลกำลังล่มสลาย มีปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง มีการสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถ สถาบันของรัฐ โครงสร้างพื้นฐานกำลังพังทลาย อิสราเอลอาจอยู่ในสภาพที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ
#ฉนวนกาซา
#หยุดยิง
#ช่วยตัวประกัน