ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ปราศรัยจากห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว เมื่อคืนนี้(15 ม.ค.68)ตามเวลาท้องถิ่น ในโอกาสอำลาประชาชนในสหรัฐฯ ก่อนพ้นตำแหน่งและถ่ายโอนอำนาจให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนที่ 47 ของสหรัฐฯในวันจันทร์หน้า(20 ม.ค.68) ในประเด็นเรื่องผลงานของรัฐบาล นายไบเดน หวังว่า ผลงานต่างๆที่รัฐบาลทำมาตลอด 4 ปี จะมีผลที่เป็นรูปธรรมต่อไปอีกหลายปี แต่ต้องยอมรับว่าต้องใช้เวลา เช่น นโยบายการลดราคายารักษาโรค สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ การประกาศใช้กฎหมายความปลอดภัยเกี่ยวกับปืนและการช่วยให้ทหารผ่านศึกได้รับการดูแลด้านสาธารณสุข พร้อมทั้งพูดถึงผลงานด้านนโยบายการต่างประเทศ และการทำให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(NATO)เข้มแข็งมากขึ้น ช่วยให้ยูเครนยังคงเป็นรัฐอิสระ ทั้งทำให้สหรัฐฯยังคงนำหน้าในการแข่งขันทุกๆด้านกับประเทศจีน
นายไบเดน เตือนแนวคิดเรื่องคณาธิปไตย(oligarchy) หรืออำนาจกระจุกอยู่ในมือคนกลุ่มน้อยซึ่งเริ่มก่อตัวขึ้นในสหรัฐฯ ถ้าไม่มีองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจ จะกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานและความเป็นธรรมสำหรับประชาชนทุกคนในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ นายไบเดน ตั้งข้อสังเกตว่า สัญลักษณ์รูปปั้นเทพีแห่งสันติภาพในนครนิวยอร์ก ของขวัญที่รัฐบาลฝรั่งเศสมอบให้กับสหรัฐฯในโอกาสฉลองวันชาติครบ 100 ปี เมื่อวันที่4 ก.ค.2419 สะท้อนวิธีคิดในแบบฉบับชาวอเมริกันว่าเป็นคนรักเสรีภาพ อุปมาเรื่องนี้ว่ารูปปั้นเทพีแห่งสันติภาพ ไม่ได้ยืนนิ่งเฉย แต่เท้าของเธอก้าวขึ้นมายืนอยู่เหนือโซ่แห่งพันธนาการที่ขาดสะบั้น สื่อความหมายถึงคนหลุดพ้นจากการเป็นทาส ทั้งถูกสร้างขึ้นให้ยืนหยัดต่อสู้แรงเหวี่ยงต่างๆ เช่น กระแสลมแรงและพายุ แต่ยังยืนหยัดอย่างมั่นคง
#ไบเดน
#ปราศรัยอำลาตำแหน่ง