ธนาคารโลก ระบุเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว แต่ประเทศกำลังพัฒนายังเผชิญปัญหาหนัก

          ธนาคารโลก เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุด (Global Economic Prospects) ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตถึงร้อยละ 2.7 ในปี 2568 และ 2569 ซึ่งสอดคล้องกับระดับที่ทำได้เมื่อปีที่แล้ว (2567) โดยอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอาจลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทั่วโลกร้อยละ 60 คาดว่าจะสิ้นสุดไตรมาสแรกของศตวรรษที่ 21 ด้วยแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีเสถียรภาพในอีกสองปีข้างหน้า แต่คาดว่าเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาจะมีความก้าวหน้าที่ช้าลงในการไล่ตามระดับรายได้ของประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง โดยจะเติบโตคงที่ประมาณร้อยละ 4 ในอีก 2 ปีข้างหน้า ไม่เพียงพอที่จะส่งเสริมความก้าวหน้าในการบรรเทาความยากจนและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่กว้างขึ้น

          นายอินเดอร์มิต กิลล์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก ระบุว่า มีอุปสรรคที่น่ากังวลเข้ามาแทนที่ เช่น ภาระหนี้ที่สูง การลงทุนและการเติบโตของผลผลิตที่อ่อนแอ และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

          การเติบโตทางเศรษฐกิจต่อหัวในประเทศกำลังพัฒนา นับตั้งแต่ปี 2557 ไม่รวมจีนและอินเดีย ต่ำกว่าการเติบโตในเศรษฐกิจที่ร่ำรวยโดยเฉลี่ยร้อยละ 0.5 จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์ใหม่ เพื่อผลักดันการปฏิรูปในประเทศผ่านการส่งเสริมการลงทุนในภาคเอกชนให้มากขึ้น กระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และส่งเสริมการใช้เงินทุน บุคลากร และพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

          ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า การเติบโตจะชะลอตัวในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมถึงในยุโรปและเอเชียกลาง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ ทั้งในจีนและยุโรป สวนทางกับภูมิภาคแอฟริกาใต้ซาฮารา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ จะได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้การเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

....

#เศรษฐกิจโลก

#ธนาคารโลก