ประชาชนในพื้นที่ใช้ช่วงเวลาหยุดยิงในฉนวนกาซา เดินทางกลับบ้าน สํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OCHA) หน่วยงานด้านมนุษยธรรมในสังกัดของสหประชาชาติ(UN) เปิดเผยว่า บ้านเรือนราว 436,000 หลัง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 92 ของบ้านเรือนทั้งหมดในเขตฉนวนกาซาเสียหายยับเยิน ในจำนวนนี้ บ้านเรือน 160,000 หลัง เสียหายหนักในสภาพราบเป็นหน้ากลอง เหลือแต่เศษอิฐเศษปูน ที่เหลืออีก 276,000 หลัง มีทั้งเสียหายรุนแรงจนถึงเสียหายบางส่วน นอกจากนั้น ชาวบ้านกว่า 1.8 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนเรื่องเต็นท์พักแรมชั่วคราว และอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน
UN โพสต์ทางเว็บไซต์ในเรื่องประชากรในเขตฉนวนกาซาว่าราวร้อยละ 90 ของประชากรทั้งหมดในเขตฉนวนกาซาไร้ที่อยู่อาศัย ถูกกองกำลังป้องกันอิสราเอล สั่งให้ย้ายค่ายอพยพซ้ำแล้วซ้ำอีก บางคนถูกสั่งอพยพจากค่ายอพยพต่างๆมา 10 ครั้งหรือมากกว่านั้น อาคารส่วนใหญ่เสียหาย เหลือแต่ซากอิฐซากปูน อาคารบ้านเรือน ตลอดถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลเสียหายจากการโจมตีทางอากาศและการบุกทางภาคพื้นดินของอิสราเอล อีกทั้งกระทบระบบสาธารณสุข ระบบประปา และการกำจัดขยะ ทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงในด้านสิ่งแวดล้อม และเสี่ยงเกิดปัญหาสุขอนามัยสำหรับประชาชน
ชาวบ้าน เปิดใจกับซีเอ็นเอ็น ยอมรับรู้สึกเหมือนหน้าชื่นอกตรม ตอนแรก เขารู้สึกดีใจที่มีโอกาสกลับบ้าน แต่หลังจากกลับมาพบอาคารบ้านเรือนเสียหายหนักมาก กลายเป็นเศษอิฐเศษปูน เขารู้สึกแย่มาก
#บ้านเรือนพังยับเยิน
#สงครามกาซา