ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า บรรดาผู้นำจากทั่วโลก เริ่มจากฝั่งยุโรป นายมาร์ค รุตเตอร์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(NATO) นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย นายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ของฮังการี ร่วมส่งสาส์นแสดงความยินดี หรือโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ ในโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของสหรัฐฯเมื่อวานนี้(20 ม.ค.)
โดยเฉพาะนายรุตเตอร์ แสดงความมั่นใจว่า การกลับเข้ามาบริหารประเทศสหรัฐฯสมัยที่ 2 ของนายทรัมป์จะทำให้มีการเพิ่มงบกลาโหมและการผลิตอาวุธมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ กล่าวในช่วงการหาเสียงในปีที่แล้วว่า สหรัฐฯจะปล่อยให้รัสเซียทำอะไรก็ได้ที่อยากทำสำหรับประเทศสมาชิกนาโตที่จ่ายงบกลาโหมสมทบให้กับนาโตต่ำกว่าร้อยละ 2 โดยสหรัฐฯจะไม่เข้าไปช่วยปกป้องความมั่นคงให้ ขณะที่นายออร์บาน โพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ว่า บัดนี้ ถึงช่วงเวลาแห่งความโชติช่วงของพวกเราแล้ว ส่วนใหญ่ขอให้มีการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น หรือให้สานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศของพวกเขากับสหรัฐฯ
ในฝั่งเอเชีย นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อของไต้หวัน ร่วมแสดงความยินดีกับนายทรัมป์เช่นกัน โดยเฉพาะนายโมดี เรียกนายทรัมป์ว่า เพื่อนรัก ส่วนในตะวันออกกลางเช่น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล เจ้าหญิง รีมา บินต์ บันดาร์ อัล ซาอุด เอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำสหรัฐฯและนายอาเหม็ด อัล-ชารา ผู้นำคนใหม่ของซีเรีย ต่างร่วมส่งสาส์น หรือโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์แสดงความยินดีกับนายทรัมป์เช่นเดียวกัน
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การที่นายทรัมป์กลับเข้ามาบริหารประเทศสมัยที่ 2 จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อดูจากการลงนามในคำสั่งและประกาศใหม่ๆของนายทรัมป์ในโอกาสแรกที่กลับทำเนียบ เช่น การประกาศถอนชื่อสหรัฐฯจากการเป็นภาคีสมาชิกในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกรุงปารีส (Paris Agreement) และการเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลก(WHO) ขณะที่ผู้นำโลกอีกหลายประเทศเช่น จีน เม็กซิโกและแคนาดา เตรียมพร้อมรับมือนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯตามนโยบายสหรัฐฯต้องมาก่อน ของรัฐบาลทรัมป์
#ทั่วโลกร่วมยินดีทรัมป์