ตร.เตือนวัยรุ่นแห่ ล่าเหรียญ Jagat สัญชาติอินโดนีเซีย บุกรุกบ้านคน เข้าข่ายผิดกฎหมาย

          ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ชาวบ้านใน จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากที่พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังติดตามแอปพลิเคชันหนึ่ง ชื่อว่า "Jagat Coin Hunt" ซึ่งเป็นลักษณะที่มีการนำเหรียญที่สร้างขึ้นไปซุกซ่อนตามแหล่งต่างๆ ซึ่งเป็นสถานที่จริง 

          โดยมีการเปิดแอปพลิเคชันเหมือนลักษณะให้ผู้ติดตามไปเสาะหาเหรียญต่างๆ ที่มีการนำไปซ่อนไว้ตามสถานที่จริง แล้วนำหมุดหมายมาสร้างเป็นเกมส์ เพื่อให้ออกตามหาเหรียญที่ถูกนำไปซ่อนไว้ แล้วมีการประกาศให้รางวัลตามมูลค่าของเหรียญที่มีความแตกต่างกัน ตั้งแต่มูลค่าเหรียญละ 500 บาทไปจนถึงหรียญแพงสุดในราคา 2 แสนบาท 

          ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.ช้างเผือกว่าได้รับผลกระทบถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกรุกสร้างความเดือดร้อน  จึงออกย้ำเตือนผู้ที่เล่นเกมส์ตามแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีลักษณะการบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ รวมทั้งแจ้งเตือนไปยังผู้ที่สร้างแอปพลิเคชันดังกล่าวว่า ตอนนี้ได้ก่อให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะให้ให้ผู้ที่เข้าร่วมจะมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะทำผิดกฏหมายเช่นกัน โดยเฉพาะเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชน

          เหรียญ  Jagat  ดังกล่าว เป็นภารกิจหาเหรียญ อยู่บนแอปพลิเคชัน Jagat มีต้นกำเนิดจากอินโดนีเซีย เปิดให้คนไทยดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ iOS โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวมีมานานแล้ว แต่ภารกิจล่าเหรียญเพิ่งมีเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 กิจกรรมตามล่าเหรียญ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ล่าสมบัติในโลกเสมือนจริง  จัดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย

ทั้งนี้ ภายในแอปพลิเคชัน มีแผนที่แสดงตำแหน่งของเหรียญ 3 สี และมีมูลค่าแตกต่างกัน โดย

เหรียญสีทอง จะแทนมูลค่า 200,000 บาท 

เหรียญสีเงิน จะแทนมูลค่า  20,000 บาท 

เหรียญสีบลอนด์ จะแทนมูลค่า 500-2,000 บาท โดยเหรียญจะถูกซุกซ่อนอยู่ในสถานที่ต่างๆบางครั้งเป็นพื้นที่รกร้าง หรือพื้นที่ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ในภารกิจล่าเหรียญ Jagat บางครั้งหากเราอยากได้เบาะแสคำใบ้ อาจจำเป็นต้องจ่าย-เติมเงิน

 

          ด้าน พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.สายตรวจ เจ้าของเพจ "ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก Police Don't Cry" ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเหรียญ #JagatCoin ระบุว่า บริษัทที่ทำเรื่องนี้ เป็นสัญชาติอินโด เข้าไปดูไปร์ไฟล์ใน LinkedIn ไม่มีทีมงานคนไทยเลย หากเกิดเหตุไม่รู้จะติดต่อกับใคร App ออกแบบให้คนที่ไม่ระวัง อาจเผลอไปกด สมัครแบบเสียเงิน รายสัปดาห์ รายเดือน และ รายปี โดยไม่รู้ตัวได้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน  การแชร์พิกัดตำแหน่งของผู้ใช้ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพ เฝ้าติดตามและฉวยโอกาสลงมือขโมยทรัพย์สินไปได้

          คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง : พูดคุยกับบุตรหลานเกี่ยวกับความเสี่ยงในการตามหาเหรียญผ่าน App Jagat ก่อนที่จะสูญเสียนะครับ

#ล่าเหรียญ