อัยการสูงสุดจาก 18 รัฐ รวมทั้งเขตโคลัมเบียและซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางเพื่อขอระงับคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการยุตินโยบายการย้ายถิ่นฐาน ในประเด็นการได้สัญชาติโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ จะได้สัญชาติสหรัฐฯ ไม่ว่าพ่อแม่จะมีสถานการณ์การย้ายถิ่น รวมถึงไม่ว่าพ่อแม่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าประเภทอื่นหรือเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย แต่ประธานาธิบดีทรัมป์และผู้สนับสนุนมีความเห็นว่าต้องมีมาตรฐานที่เข้มงวดยิ่งขึ้น จึงกำหนดว่า บุคคลจะไม่ได้สัญชาติสหรัฐฯ หากแม่ของบุคคลนั้นอยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย และพ่อไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกกฎหมายในขณะที่บุคคลนั้นเกิดหรือในเวลาที่บุคคลนั้นถือกำเนิดหรือแม่ของบุคคลนั้นพักอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราว โดยให้ข้อบังคับนี้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันอังคารที่ 19 ก.พ.68 เป็นต้นไป
นายแมตต์ แพลตคิน อัยการสูงสุดแห่งรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า รัฐธรรมนูญมีข้อบัญญัติเรื่องการได้สัญชาติ ซึ่งประธานาธิบดีไม่สามารถใช้อำนาจฝ่ายบริหารไปแก้ไขได้
นอกจากนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนของผู้อพยพก็ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางหลายแห่ง เพื่อขอคัดค้านคำสั่ง เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ
สำหรับ 18 รัฐที่ร่วมยื่นฟ้องร้องได้แก่ นิวเจอร์ซีย์ แคลิฟอร์เนีย แมสซาชูเซตส์ โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ ฮาวาย เมน แมริแลนด์ มิชิแกน มินนิโซตา เนวาดา นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก นอร์ทแคโรไลนา โรดไอแลนด์ เวอร์มอนต์ และวิสคอนซิน
#ยื่นฟ้อง
#คัดค้านคำสั่งฝ่ายบริหาร
#ทรัมป์
#ระงับการให้สัญชาติโดยกำเนิด