'ทรัมป์' กดดัน 'ปูติน' หนักขึ้น เตรียมคว่ำบาตร-ตั้งกำแพงภาษีรอบใหม่ หากไม่หยุดสงครามยูเครน

          นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จะตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากรัสเซีย และมีมาตรการคว่ำบาตรระดับสูงเพิ่มเติม หากรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามยูเครน ที่ดำเนินมานานเกือบ 3 ปีได้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันมาตรการคว่ำบาตรให้หนักมากขึ้น

           เจ้าหน้าที่รัฐบาลของนายทรัมป์ กล่าวว่า อาจมีวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมที่จะกดดันรัสเซียเพื่อยุติสงครามในยูเครนให้ได้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า อาจมีการกดดันในภาคพลังงานเพิ่มเติม เป็นการพิจารณาทางเลือกต่างๆ มาตั้งแต่ก่อนการเข้ารับตำแหน่ง โดยปรึกษาหารือกับผู้ได้รับการแต่งตั้งในคณะรัฐมนตรีบางส่วน รวมถึงกลุ่มนักวิจัยแนวอนุรักษ์นิยม

            นายสก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลนายทรัมป์ กล่าวว่า เห็นด้วยและสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร โดยเฉพาะกับบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย

            การค้าระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย น้อยลง ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามยูเครน และลดลงอย่างมากหลังจากนั้น เนื่องจากรัฐบาลนายโจ ไบเดน คว่ำบาตรอย่างหนัก

            สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ไม่ว่านายทรัมป์ จะเลือกเส้นทางใด เขาก็ไม่น่าจะดำเนินการตามนั้นก่อนที่จะพูดคุยกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เนื่องจากเขาเชื่อมั่นว่าการสื่อสารโดยตรงสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกได้

            ก่อนหน้านี้ นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านกิจการต่างประเทศของรัสเซีย เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีปูติน ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ใช้เวลา1 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อหารือแนวทางสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ นายปูติน กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัสเซียและจีนสร้างความสัมพันธ์บนพื้นฐานของมิตรภาพ ความไว้วางใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าจะมีกระแสกดดันต่างๆนานาจากภายนอก หวังให้เกิดความแตกแยกกัน พร้อมทั้งหารือประเด็นเรื่องอื่นๆเช่น สถานการณ์ในตะวันออกกลาง เกาหลีใต้และไต้หวัน

#ทรัมป์

#ปูติน

#สงครามรัสเซียยูเครน

Cr.CNBC