สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายหลิว จิ้นซง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชีย สังกัดกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า จีนหวังว่าไทยและเมียนมาจะปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดน (แก็งคอลเซนเตอร์) ด้วยมาตรการที่เข้มงวด และไม่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล โดยนายหลิวกล่าวถ้อยคำข้างต้นระหว่างการพบปะหารือแยกกับ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำจีน และนายติน หม่อง ชเว เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำจีน โดยนายหลิว ได้แสดงความกังวลและหารือถึงความร่วมมือในการปราบปรามการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดน
นายหลิวกล่าวว่า เกิดเหตุฉ้อโกงทางโทรคมนาคมร้ายแรงหลายคดี ในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยและเมียนมาเมื่อไม่นานนี้ นับเป็นภัยคุกคามและสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์สำคัญของ คนจีนและประเทศอื่นๆ โดยจีนหวังว่า ทั้งไทยและเมียนมาจะให้ความสำคัญต่อประเด็นดังกล่าว ใช้มาตรการเข้มงวดปราบปรามการกระทำผิดลักษณะนี้ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และไม่ปล่อยให้ผู้กระทำความผิดลอยนวล ทั้งนี้ จีน พร้อมที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายทวิภาคีและพหุภาคีร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมทั่วไป
ด้านเอกอัครราชทูตไทยและเมียนมาประจำจีน ให้คำมั่นว่าจะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกกักขัง กำหนดบทลงโทษรุนแรงต่อแก๊งอาชญากรอย่างสอดคล้องตามกฎหมาย เสริมสร้างการควบคุมชายแดนและกำกับดูแลพื้นที่สำคัญ ตลอดจนจัดตั้งกลไกระยะยาวเพื่อกำจัดแหล่งซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามพรมแดน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ครอบครัวชาวจีนร่วมกันรวบรวมรายชื่อญาติที่ถูกหลอกไปทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาเกือบ 1,800 ราย กดดันให้ทางการจีนเร่งช่วยเหลือ หลังกรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีน หวัง ซิง ถูกลักพาตัวและได้รับการช่วยเหลือจนกลายเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ด้านจีนประกาศร่วมมือกับไทยและเมียนมาเพื่อปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ
#จีนไทยเมียนมา
#ร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์