สหรัฐฯส่งทหารหมื่นนาย ดูแลความมั่นคงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก

          รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้ส่งทหาร 1,500 คนไปรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งติดต่อกับเม็กซิโก เช่น เมืองเอล ปาโซ ในรัฐเท็กซัสและเมืองซานดิเอโก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน ในสังกัดกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯจัดสร้างรั้วกั้นชายแดน เพิ่มเติมจากทหาร 2,500 นายที่ถูกส่งไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทหารชุดดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านการบังคับใช้กฏหมาย เช่น การจับกุมผู้อพยพ

          ขณะเดียวกัน จดหมายเวียนลงวันที่ 21 ม.ค.ซึ่งถูกส่งหน่วยงานต่างๆในองค์กรสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนและเผยแพร่ต่อสื่อ เช่น สถานีโทรทัศน์ซีบีเอส นิวส์และบีบีซี แสดงให้เห็นว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจะส่งกำลังทหารมากถึง 10,000 นายไปดูแลความมั่นคงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯอาจจะใช้ค่ายทหารบางแห่งเป็นสถานที่กักกันผู้อพยพที่รอการถูกส่งตัวกลับประเทศ

         ก่อนหน้านี้ ไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์(20 ม.ค.) นายทรัมป์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในพื้นที่ชายแดนติดต่อกับเม็กซิโก ระบุว่า อธิปไตยเกี่ยวกับดินแดนของสหรัฐฯถูกรุกรานจากกลุ่มผู้อพยพ นอกจากนั้น นโยบายคนเข้าเมืองเป็นหนึ่งในคำมั่นที่นายทรัมป์ชูระหว่างการหาเสียงในปีที่แล้ว พร้อมย้ำในวันรับตำแหน่งวาสหรัฐฯจะปิดชายแดนและปราบปรามผู้ลักลอบเข้าเมือง เช่น บังคับส่งตัวกลับประเทศ

#สหรัฐฯ

#ความมั่นคงชายแดน