ผู้พิพากษาสหรัฐฯ สั่งระงับคำสั่งของ'ทรัมป์' ที่จำกัดสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิด

วันนี้, 06:46น.


           จากคำสั่งของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในประเด็นการได้สัญชาติโดยกำเนิด ทำให้อัยการสูงสุดจาก 18 รัฐ รวมทั้งเขตโคลัมเบียและซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และกลุ่มสิทธิมนุษยชน ฟ้องร้องต่อศาลรัฐบาลกลางเพื่อขอระงับคำสั่งดังกล่าว



          ล่าสุด นายจอห์น คูห์เนอร์ ผู้พิพากษาศาลแขวง เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ออกคำสั่งระงับชั่วคราว สำหรับคำสั่งฝ่ายบริหารที่จำกัดสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิด ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญในการให้สิทธิการเป็นพลเมืองโดยอัตโนมัติแก่ผู้ใดก็ตามที่เกิดในสหรัฐฯ โดยห้ามรัฐบาลใช้มาตรการนี้ที่ถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ



          คำสั่งระงับชั่วคราวของผู้พิพากษามีขึ้นหลังจาก 4 รัฐ ยื่นคำร้อง  4 รัฐได้แก่ แอริโซนา อิลลินอยส์ โอเรกอน และวอชิงตัน นับเป็นคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งของนายทรัมป์ที่เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดี



          4 รัฐที่ยื่นฟ้องในซีแอตเทิล ระบุว่า คำสั่งฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ ซึ่งลงนามในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้นมีกำหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 ก.พ.68 คำสั่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้คนที่เกิดในประเทศหลายแสนคน โดยในปี 65 มีเด็กที่เกิดในสหรัฐฯจากแม่ที่อาศัยอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายประมาณ 255,000 ราย และมีเด็กที่เกิดจากทั้งพ่อและแม่ที่อาศัยอยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายประมาณ 153,000 ราย คำสั่งของนายทรัมป์ ทำให้กลุ่มสิทธิมนุษยชน มองว่าเป็นคำสั่งที่โจมตีแนวคิดเรื่องสัญชาติอเมริกันอย่างรุนแรง เป็นการคุกคามที่ส่งผลไม่เพียงแต่ต่อเด็กที่เกิดในสหรัฐฯ ที่มีพ่อแม่ไม่มีเอกสารรับรองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกๆ ของผู้อพยพที่อยู่ในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย



       นอกจากนี้ วอชิงตันและรัฐอื่นๆ กำลังโต้แย้งว่าการยุติการให้สิทธิพลเมืองโดยกำเนิดจะสร้างภาระให้กับโครงการของรัฐทั้งในด้านการเงินและด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากเด็กเหล่านี้จะไม่มีสิทธิ์ได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลกลางซึ่งพวกเขาพึงมีสิทธิได้รับในฐานะพลเมือง



 



#สหรัฐ



#สิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิด



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X