สงครามการค้ารอบใหม่ กระทบส่งออกไทยปีนี้ ภาคการผลิตของโลก ส่งสัญญาณชะลอตัว

24 มกราคม 2568, 14:14น.


          KResearch รายงานว่า การส่งออกไทยในเดือน ธ.ค.67 ขยายตัว 8.7% YoY สูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 7.4% YoY โดยมีสรุปดังนี้


-การส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ตามวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการส่งออกคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบไปสหรัฐฯ ที่ขยายตัวถึง 61.5% YoY ส่งผลให้การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ โดยรวมขยายตัวถึง 17.5%YoY ในเดือน ธ.ค.67


-ส่งออกสินค้าขั้นกลางไปยังจีน เช่น ยางพารา และ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ ช่วยหนุนการส่งออกไทยไปจีนเดือน ธ.ค.67 ให้ขยายตัว 15.0% YoY โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งนำเข้าสินค้าท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่


-ขณะที่ ส่งออกโซลาร์ เซลล์ หดตัวเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน เนื่องจากมาตรการ AD/CVD ของสหรัฐฯ


-ทั้งปี 67 มูลค่าการส่งออกไทยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 300,529.5 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 5.4% ขณะที่มูลค่านำเข้าอยู่ที่ 306,809.8 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 6.3% ส่งผลให้ไทยเผชิญการขาดดุลการค้า (ตามฐานศุลกากร) เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ -6,280.4 ล้านดอลลาร์ฯ


-ในปี 68 การส่งออกไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ต่ำกว่าปีก่อนหน้าที่ 2.5% โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 68 ยังมีแรงหนุนบางส่วนจากการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีอยู่ แต่การส่งออกไทยยังถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและมีความท้าทาย ดังนี้


1.สงครามการค้ารอบใหม่กดดันภาพการค้าและอุปสงค์โลก เบื้องต้นสหรัฐฯ ยังไม่ปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับทุกประเทศ (universal tariff) เพื่อสอบสวนผลกระทบจากการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ แต่ส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับเม็กซิโก แคนาดา และจีน ส่งผลให้การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ อาจได้รับอานิงส์บวกบ้างเพื่อทดแทนตลาดดังกล่าว เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ถุงมือยาง ยางล้อ เครื่องพิมพ์ (Printers) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมการส่งออกไทยอาจต้องเผชิญแรงกดดันจากการค้าและอุปสงค์โลกที่ชะลอลง การแข่งขันในตลาดโลกที่สูงขึ้น และการส่งออกไปจีนที่คาดว่าชะลอลง


2.ความเสี่ยงที่จะโดนสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้า เนื่องจาก การเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูง โดยสินค้าที่มีความเสี่ยงเป็นสินค้าที่ไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯสูง และได้อานิงส์จากการเข้ามาลงทุนหรือย้ายฐานการผลิตของจีนในสงครามการค้ารอบแรก เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และโซลาร์เซลล์ อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คงขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาและขนาดการปรับขึ้นภาษี รวมถึงผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีขึ้นในช่วงเดือนก.พ.68


          ในภาพรวมการส่งออกไทยปี 68 คาดว่า จะได้รับผลกระทบสุทธิจากสงครามการค้าเป็นลบที่ราว 0.5% ซึ่งได้รวมอยู่ในประมาณการส่งออกล่าสุดแล้ว จากการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่ลดลงในสินค้าบางรายการที่มีความเสี่ยง การส่งออกไปจีนที่ลดลงในสินค้าที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการผลิตจีน และการแข่งขันกับสินค้าจีนที่มากขึ้นในตลาดคู่ค้าของไทย


3.ภาคการผลิตของโลกส่งสัญญาณชะลอตัว ส่วนหนึ่งถูกกดดันจากความต้องการสินค้าที่ลดลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายภายใต้ทรัมป์ 2.0 เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ในหลายพื้นที่ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ของโลกยังอยู่ในภาวะหดตัวในเดือนธ.ค.67 ที่ 49.6 ตามผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง


 


#สงครามการค้า


#กระทบส่งออกไทย


Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ KResearch


 


 
ข่าวทั้งหมด

X