รพ.ใน จ.อุบลฯ รับผู้บาดเจ็บ 26 คน ส่งต่อมารักษา อุบัติเหตุใหญ่ที่ สปป.ลาว

           การให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอุบัติเหตุหมู่ รถบัสโดยสารเวียงจันทน์-ปากเซ สปป.ลาว ชนต้นไม้ ที่หมู่บ้านภูดาวแจ้ง เมืองละคอนเพ็ง แขวงสาละวัน สปป.ลาว เมื่อเวลา 05.00 น. วันอาทิตย์(26 ม.ค.68)  คนขับรถเสียชีวิต ส่วนผู้โดยสาร 43 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติได้บาดเจ็บสาหัสถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลแขวงจำปาสัก เมืองปากเซ แต่ด้วยจำนวนผู้บาดเจ็บมีจำนวนมากเกินกำลังของโรงพยาบาลจำปาสัก จึงประสานมาที่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีคำสั่งให้โรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือในการรับต่อผู้ป่วยตามหลักมนุษยธรรม 

           ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ เปิดเผยว่า  มีผู้ป่วยส่งต่อมารักษาตัวที่ประเทศไทย ผ่านด่านพรมแดนช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 26 คน  ระดมสรรพกำลังเตรียมรับผู้ป่วยเพื่อดำเนินการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการรักษา ซึ่งจากข้อมูลการส่งต่อมีผู้ป่วย

-ผู้ป่วยส่งต่อที่โรงพยาบาลพริ้นซ์อุบลราชธานี จำนวน 19 คน

-โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จำนวน 5 คน

-โรงพยาบาลอุบลรักษ์ธนบุรี จำนวน 2 คน

           แบ่งเป็น 9 สัญชาติ ได้แก่

1. อิสราเอล 12 ราย (ชาย 3 ,หญิง 9)

2. ฝรั่งเศส 5 ราย (ชาย 1 ,หญิง 4)

3. ไต้หวัน 2 ราย (ชาย 1 ,หญิง 1)

4. ลาว 1 ราย (ชาย 1)

5. อังกฤษ 2 ราย (ชาย 1 ,หญิง 1)

6. เบลเยียม 1 ราย (หญิง 1)

7. โปรตุเกส 1 ราย (หญิง 1)

8. สเปน 1 ราย (หญิง 1)

9. เวียดนาม 1 ราย (หญิง 1)

           ผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยืนยันปลอดภัยทุกราย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนรถพยาบาลส่งต่อ หน่วยงานต่างๆที่ประสานข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ป่วย รวมถึงประชาชนชาวอุบลราชธานีที่ร่วมใจบริจาคโลหิตจำนวน 126 ยูนิต/ราย ซึ่งได้เลือดที่พร้อมให้การช่วยเหลือต่อไป

           นอกจากนี้ ยังให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ที่ร่วมมือร่วมใจกัน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้เห็นว่าจังหวัดอุบลราชธานีมีศักยภาพและความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศ ยังมีประสิทธิภาพ และบูรณาการอย่างเข้มแข็งอีกด้วย

#อุบัติเหตุที่ลาว

#ส่งคนเจ็บมารักษาที่อุบล

Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี