หุ้นเอเชียปิดภาคเช้า สลับบวก-ลบ จีนแถลงดัชนี PMI ลดลง

          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดเช้าลบในวันนี้ (27 ม.ค.) แม้นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นธนาคารหลังอัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่หุ้นเทคโนโลยีอ่อนตัวลงหลังจากพุ่งแรงในสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีนิกเกอิ ปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,699.76 จุด ลดลง 232.22 จุด

         อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิ กลับพลิกร่วงลงมาอยู่ในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นเทคโนโลยีที่มีน้ำหนักในตลาดมาก หลังจากที่หุ้นกลุ่มนี้พุ่งขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อนจากข่าวสหรัฐฯ ประกาศโครงการลงทุนด้าน AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์

         ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (27 ม.ค.) หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรม  รวมทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,259.97 จุด เพิ่มขึ้น 193.78 จุด

          สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวขึ้น 11% ในเดือนธ.ค. 67 เมื่อเทียบเป็นรายปี ด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค. ลดลงสู่ระดับ 49.1 จากระดับ 50.1 ในเดือนธ.ค.67 โดยดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการปรับตัวลงสู่ระดับ 50.2 ในเดือนม.ค.68 จากระดับ 52.2 ในเดือนธ.ค.67

          ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 1% ในช่วงเช้าวันนี้ (27 ม.ค.67) หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ ย้ำถึงข้อเรียกร้องที่ต้องการให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดราคาน้ำมัน หลังจากที่เขาได้ประกาศมาตรการต่าง ๆ เป็นวงกว้างเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำมันและก๊าซในสัปดาห์แรกที่เข้าดำรงตำแหน่ง

          สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.19% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24 ม.ค.68) ปธน.ทรัมป์ได้ย้ำถึงข้อเรียกร้องที่ต้องการให้โอเปกปรับลดราคาน้ำมัน เพื่อให้มีผลกระทบต่อสถานะการเงินของรัสเซียและเพื่อช่วยให้สงครามในยูเครนสิ้นสุดลง

#หุ้นเอเชีย