ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อวานนี้ (27 ม.ค.68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย เป็นการโทรศัพท์พูดคุยอย่างสร้างสรรค์ ย้ำถึงความสำคัญของการกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การเพิ่มการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับอินเดีย การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่เป็นธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย ปัญหาคนเข้าเมือง ตลอดถึงปัญหาด้านความมั่นคงในอินโด-แปซิฟิกตะวันออกลางและยุโรป นายโมดี จะเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในเดือนก.พ.นี้
นักวิเคราะห์ ระบุว่า นายทรัมป์และนายโมดี มีความสัมพันธ์ที่ชื่นมื่นมาตั้งแต่ในยุคที่นายทรัมป์บริหารประเทศสหรัฐฯสมัยแรก แต่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว นายทรัมป์ วิจารณ์อินเดียว่า เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เอารัดเอาเปรียบสหรัฐฯในเรื่องการค้า พร้อมประกาศจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลก เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้าระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ พร้อมขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากกลุ่ม BRICS คือ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอินเดียเป็นสมาชิก เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้าระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ ถ้าหากอินเดียไม่ทำตามข้อเรียกร้องจากนายทรัมป์เรื่องการไม่ใช้เงินสกุลใหม่ของกลุ่ม BRICS ในการชำระเงินค่าซื้อสินค้าและบริการระหว่างประเทศแทนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านนายโมดี โพสต์ทางสื่อออนไลน์ เรียกนายทรัมป์ว่า เพื่อนรัก เพิ่มเติมว่าสหรัฐฯและอินเดียให้คำมั่นว่าจะเป็นหุ้นส่วนที่เป็นประโยชน์และไว้วางใจกันทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของพลเมืองจากประเทศทั้งสองให้ดีขึ้น ตลอดถึงการร่วมผลักดันให้เกิดสันติภาพ ความเจริญและความมั่นคงทั่วโลก
สหรัฐฯเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย มูลค่าการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศทั้งสองในปี 2566/2567 อยู่ที่ 118,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อินเดียได้เปรียบดุลการค้าราว 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ อินเดียเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในเรี่องการยับยั้งการขยายอิทธิพลทางทหารของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
#รัฐบาลทรัมป์
#คุยโทรศัพท์กับผู้นำอินเดีย
#หารือการขายอาวุธ