หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป องค์กรฝ่ายบริหารของกลุ่มสหภาพยุโรป(EU)เริ่มใช้มาตรการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าเพิ่มเติมร้อยละ 35.3 สำหรับรถไฟฟ้า (EV)นำเข้าจากจีน เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.67 เพิ่มเติมจากภาษีนำเข้าเดิมที่อัตราร้อยละ 10 กล่าวหาบริษัทรถ EV ในประเทศจีนว่าได้รับเงินอุดหนุนบางส่วนจากรัฐบาลจีน ทำให้บริษัทรถ EV ในจีนได้เปรียบในการแข่งขันกับผู้ผลิตรถ EV อื่นๆจากยุโรป
บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถไฟฟ้า(EV)รายใหญ่ของสหรัฐฯยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมแห่งยุโรป กล่าวหากลุ่มสหภาพยุโรป(EU)เรียกภาษีเพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 35.3 สำหรับการนำเข้ารถ EV ของเทสลาที่ผลิตในประเทศจีนว่าเป็นอัตราที่สูงเกินไปและไม่เป็นธรรมสำหรับบริษัท นอกจากนั้น เอกสารของศาลแสดงให้เห็นว่าบริษัทรถ BMW จากเยอรมนีและบริษัท BYD ผู้ผลิตรถ EV ชั้นนำจากจีน ยื่นฟ้องต่อศาล คัดค้านเรื่องนี้เช่นกัน ด้านค่ายรถ EV จากยุโรปเปิดเผยว่าพวกเขาพร้อมจะสู้คดีในศาล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทรถ EV ชาวยุโรป
ด้านบริษัทวิจัยตลาด โร โมชัน (Rho Motion)ของอังกฤษ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ว่า ยอดขายรถ EV เต็มรูปแบบและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อบละ 17 ในปี 2568 สู่ระดับมากกว่า 20 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการขยายระยะเวลาโครงการเงินอุดหนุนการแลกเปลี่ยนรถยนต์ในจีน และปัจจัยอื่นๆเช่นการบังคับใช้กฎเกณฑ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการที่ราคารถ EV ถูกลง
#เทสลาฟ้องศาลอียู
#เก็บภาษีรถEVจากจีนไม่เป็นธรรม
#ตลาดรถEVยุโรป