ตลาดน้ำมันในต่างประเทศติดตามสถานการณ์กลุ่มผู้ประท้วง ขัดขวางการขนส่งน้ำมันดิบที่ท่าเรือเอสไซเดอร์และราสลานูฟของลิเบีย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการส่งออกน้ำมันจำนวน 450,000 บาร์เรล/วัน ล่าสุด บริษัทน้ำมันแห่งชาติ เนชันแนล ออย คอร์ป ของลิเบีย บอกว่า กิจกรรมการส่งออกกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ หลังได้มีการพูดคุยเจรจากับพวกผู้ประท้วง นอกจากนี้ ตลาดติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน รวมทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นในหลายประเทศ
ขณะที่ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.86 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค.68 ขณะที่ นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมี.ค.68 เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ปิดที่ 73.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมี.ค.68 เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 77.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาผลกระทบจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯวางแผนจะใช้มาตรการภาษีศุลกากรต่อแคนาดาและเม็กซิโกในสัปดาห์นี้ ทำเนียบขาว ระบุว่า นายทรัมป์ ยังคงมีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ในวันเสาร์นี้(1 ก.พ.68) และกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังต่อการแสดงความเห็นของนายทรัมป์ โดยมาตรการภาษีศุลกากรอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของผลิตภัณฑ์พลังงานข้ามพรมแดนสหรัฐฯ ที่ติดกับแคนาดาและเม็กซิโก
#ตลาดน้ำมันปรับขึ้น
#มาตรการภาษีของทรัมป์
แฟ้มภาพ