หลังจากสำนักงานจัดการบริหารและงบประมาณของทำเนียบขาวสหรัฐฯ (OMB) มีคำสั่งระงับการให้เงินช่วยเหลือ, เงินกู้ หรือความช่วยเหลืออื่นๆ จากรัฐบาลกลางทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันอังคารที่ 28 ม.ค. 68 ตามเวลาท้องถิ่น
ก่อนที่คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ น.ส.ลอเรน อาลิคัน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีคำตัดสินว่า รัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่สามารถระงับการให้งบประมาณแก่โครงการที่มีอยู่แล้วได้จนถึงเวลา 17.00 น. วันจันทร์ที่ 3 ก.พ. 68 เป็นอย่างน้อย ยังไม่แน่ชัดว่าโครงการใดจะได้รับผลกระทบจากการระงับเงินช่วยเหลือบ้าง
การดำเนินการของรัฐบาลนายทรัมป์ ในการระงับการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตในกรุงวอชิงตันและคณะผู้แทนรัฐสภาของรัฐ ตอบโต้ทันที สมาชิกรัฐสภาของรัฐ กล่าวว่า กระบวนการจัดทำงบประมาณในปีนี้ซึ่งยากอยู่แล้วมีความซับซ้อนมากขึ้น มีการคาดการณ์ว่าศาลจะตัดสินว่านายทรัมป์ ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แพตตี้ เมอร์เรย์ วุฒิสมาชิกรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตคนสำคัญในคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณ แสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของนายทรัมป์ว่า ผิดกฎหมาย
ผลสำรวจใหม่ของรอยเตอร์ส อิปซอส พบว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำบางอย่างในช่วงแรกของนายทรัมป์ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
-ผู้ตอบแบบสอบถาม 70% ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของนายทรัมป์ในการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา
- 59% ไม่เห็นด้วยกับความพยายามที่จะยุติสิทธิพลเมืองโดยกำเนิด ซึ่งเป็นสิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าใครก็ตามที่เกิดในสหรัฐฯ สามารถเป็นพลเมืองสหรัฐฯ โดยอัตโนมัติได้
-ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 45% เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายทรัมป์
#รัฐบาลทรัมป์
#ตัดงบสนับสนุน
แฟ้มภาพ