ประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี แห่งอียิปต์ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ต้องการให้อียิปต์และจอร์แดน รับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา โดยกล่าวว่า การเนรเทศหรือการพลัดถิ่นของชาวปาเลสไตน์เป็นความอยุติธรรม ซึ่งอียิปต์ไม่สามารถมีส่วนร่วมได้ และไม่สามารถยอมรับให้เกิดขึ้นได้ เนื่องจาก จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอียิปต์ การแก้ไขปัญหาคือการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ ไม่ใช่การขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากที่ของพวกเขา
ส่วนนายอัยมัน ซาฟาดี รัฐมนตรีการต่างประเทศของจอร์แดน ปฏิเสธข้อเสนอของประธานิบดีทรัมป์เช่นกัน โดยกล่าวว่า จอร์แดนเป็นของชาวจอร์แดน และปาเลสไตน์เป็นของชาวปาเลสไตน์
ในฉนวนกาซามีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 2 ล้าน 2 แสนคน เกือบทั้งหมดต้องอพยพอย่างน้อยหนึ่งครั้งนับตั้งแต่ที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม 2566 เพื่อตอบโต้การที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีเมืองทางใต้ของอิสราเอลและลักพาตัวประกัน ซึ่งหลังจากข้อตกลงหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาสมีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เสนอแผน "ทำความสะอาด" ฉนวนกาซาและย้ายผู้อยู่อาศัยไปยังจอร์แดนและอียิปต์ ที่เขาเห็นว่ามีความปลอดภัยกว่า
แต่แนวคิดการย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ถูกปฏิเสธมายาวนาน ทั้งจากชาวปาเลสไตน์และประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เพราะจะเท่ากับเป็นการทำลายแนวคิดสองรัฐ ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง ในประวัติศาสตร์ของชาวปาเลสไตน์พวกเขามีการอพยพหลายครั้ง ผู้อยู่อาศัยในฉนวนกาซาหวั่นเกรงว่าหากพวกเขาออกไป พวกเขาอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาอีกเลย นับตั้งแต่สงครามครั้งนี้เริ่มขึ้น ประเทศอาหรับออกมาเตือนหลายครั้งเกี่ยวกับแผนการผลักดันชาวปาเลสไตน์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เหมือนกับเหตุการณ์นัคบาในปี 2491 ซึ่งชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านในระหว่างการสู้รบเพื่อก่อตั้งรัฐอิสราเอล
อียิปต์และจอร์แดน มีข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ขณะที่ สนับสนุนการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ กาซา และเยรูซาเล็มตะวันออกที่ถูกยึดครอง พวกเขาเกรงว่าการอพยพถาวรของประชากรในกาซาอาจทำให้การสร้างรัฐในอนาคตเป็นไปได้ยากขึ้น
#อียิปต์
#จอร์แดน
#ไม่รับชาวปาเลสไตน์