ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตราร้อยละ 25 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ จากนั้นจะพิจารณาต่อไปว่า ควรเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศทั้งสองด้วยหรือไม่ เพื่อกดดันให้ทั้งสองประเทศแก้ไขปัญหาลักลอบเข้าเมือง และเพื่อแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้า ซึ่งทั้งแคนาดาและเม็กซิโกประกาศตอบโต้โดยปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯในอัตราเดียวกัน
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า มีแผนจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนในอัตราร้อยละ 10 แต่ไม่ได้ระบุว่าจะให้มีผลเมื่อไหร่ ซึ่งที่ผ่านมา เขาเรียกร้องร้องรัฐบาลจีนปราบปรามการลักลอบนำยาบรรเทาปวดในกลุ่มเฟนทานิล (fentanyl) ที่มีการผลิตในจีนเข้าสู่สหรัฐฯ และเป็นสาเหตุที่ทำให้มีชาวอเมริกันเสียชีวิตจำนวนมาก โดยในช่วงรณรงค์หาเสียงในปีที่แล้ว เขาขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราร้อยละ 60 แต่หลังจากที่กลับเข้ามาบริหารประเทศสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม เขาได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาปัญหานี้พร้อมข้อเสนอแนะ
ทั้งนี้ การนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงนับตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งเป็นผลจากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนซึ่งรัฐบาลทรัมป์ประกาศในช่วงที่บริหารประเทศสมัยแรก
ส่วนท่าทีจากจีน รองนายกรัฐมนตรีติง ซู่เสียงของจีน กล่าวในเวทีเศรษฐกิจ (World Economic Forum) ในเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์เมื่อเร็วๆนี้ว่า ประเทศจีนต้องการหาทางออกที่ส่งผลดีแก่ทั้งสองฝ่ายในการแก้ปัญหาพิพาทการค้าและต้องการจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ
...
#รัฐบาลทรัมป์